---n — различия между версиями
м (---n) |
м (---n) |
||
| Строка 1: | Строка 1: | ||
| − | + | นอกจากกระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องดินเผา และกระเบื้องเซรามิกแล้ว หลังคาเมทัลชีท ก็ถือเป็นวัสดุมุงหลังคายอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่นำมาใช้ติดตั้งเป็นหลังคาโรงงาน หรือสถานประกอบการ เพราะด้วยความที่วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน มีความทันสมัย และติดตั้งง่ายจึงทำให้เป็นที่นิยมนั่นเอง<br /><br />ซึ่งบทความในวันนี้ แอมเพิลไลท์ จะมาบอกถึงความหลากหลายของ หลังคาเมทัลชีท พร้อมทั้งแนะนำหลังคาที่สามารถใช้ทดแทนเมทัลชีท ทั้งยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า จะเป็นอย่างไรไปดูกัน<br /><br />ทำความรู้จัก หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร ?<br /><br />หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) คือ วัสดุมุงหลังคาสำหรับโรงงาน และสถานประกอบการณ์ มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กรีดลอน เคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 55% (Zinc-Aluminium) ที่นำมาขึ้นรูปลอน สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย<br /><br />ไม่ว่าจะนำไปมุงหลังคา กรุผนัง หรือทำกันสาด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการกัดกร่อน ระบายความร้อน มีน้ำหนักเบา และมีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ก่อนติดตั้ง หลังคาเมทัลชีท มีข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง ดังนี้<br /><br />ความหนาของหลังคาเมทัลชีท<br /><br />หลังคาเมทัลชีท เป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีความหนาให้เลือกหลากหลาย เพราะความหนาแต่ละระดับจะเหมาะกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ความหนาของเมทัลชีทมีผลต่อการออกแบบ การรับน้ำหนักของโครงสร้าง และความแข็งแรงของโรงงานโดยตรง โดยความหนาของหลังคาเมทัลชีทที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน มีดังนี้<br /><br />ความหนาเมทัลชีท 0.23-0.28 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดเล็ก เช่น ที่พักอาศัยชั่วคราว<br /><br />ความหนาเมทัลชีท 0.30-0.35 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคา และผนังขนาดเล็กที่มีระยะแปไม่เกิน 1.2 เมตร เช่น บ้านพักอาศัย หรือกันสาดสำหรับต่อเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้าน<br /><br />ความหนาเมทัลชีท 0.35-0.40 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดกลาง และงานผนังทั่วไป เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และขนาดกลาง<br /><br />ความหนาเมทัลชีท 0.40-0.47 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดกลางถึงขนาดใหญ่<br /><br />ความหนาเมทัลชีท 0.47 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดใหญ่<br /><br />เลือกหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน<br /><br />หลังคา เป็นบริเวณที่มีปริมาณความร้อนส่วนใหญ่ผ่านเข้าสู่ตัวอาคาร เพราะเป็นส่วนที่ได้รับแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุด หลังคาจึงเป็นเหมือนป้อมปราการด่านแรกที่คอยปกป้องโรงงานจากความร้อน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกหลังคาเมทัลชีทที่มีการบุฉนวนกันความร้อนในตัว เนื่องจากจะช่วยลดความร้อนสะสม และช่วยลดเสียงดังรบกวน เมื่อฝนตกได้ในระดับหนึ่ง<br /><br />ข้อดี และข้อเสีย ของหลังคาเมทัลชีท<br /><br />ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท มีดังนี้<br /><br />สั่งความยาวได้ตามต้องการ และช่วยลดปัญหาหลังคารั่วซึม<br /><br />ระบายความร้อนได้ดีกว่าหลังคาคอนกรีต และหลังคากระเบื้อง<br /><br />มีน้ำหนักเบา สามารถนำมาใช้ทำหลังคาได้หลายรูปแบบ<br /><br />สามารถติดตั้งได้ในองศาที่ต่ำ โดยรองรับความชันได้ 4-5 องศา<br /><br />ใช้ต้นทุนในการก่อสร้างต่ำกว่าหลังคากระเบื้อง เพราะมีน้ำหนักเบา<br /><br />ช่วยประหยัดเหล็กทำโครงสร้างรองรับผืนเมทัลชีท<br /><br />ใช้เวลาในการก่อสร้างรวดเร็ว จบงานได้ไว ด้วยความที่เป็นแผ่นใหญ่ทั้งผืน<br /><br />มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการบิดงอได้ตามต้องการ สามารถตอบรับกับทุกการดีไซน์<br /><br />ข้อเสียของเมทัลชีท มีดังนี้<br /><br />เมทัลชีทจะมีเสียงดังรบกวนเมื่อฝนตก<br /><br />หากต้องเปลี่ยนหลังคา หรือแผ่นหลังคาเกิดชำรุด<br /><br />หลังคาเมทัลชีทมีอายุการใช้งานสั้นกว่าหลังคาทั่วไป อย่าง หลังคาไฟเบอร์กลาส เป็นต้น<br /><br /> [https://files.fm/f/yevfx3gcaq หลังคาไฟเบอร์กลาส] <br /><br />หลังคาเคมบล็อค ใช้ทดแทนเมทัลชีท ตัวช่วยประหยัดไฟให้กับโรงงาน<br /><br />ด้วยความที่หลังคาเมทัลชีทมีอายุการใช้งานสั้น โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้มุงหลังคาโรงงานที่มีการกัดกร่อนสูง หรือจากมลภาวะเลวร้ายรุนแรง แอมเพิลไลท์ จึงได้พัฒนาหลังคาไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูงที่ใช้สำหรับทดแทนแผ่นเมทัลชีท คือ หลังคาเคมบล็อค (Chemblok) เป็นหลังคาโปร่งแสงที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาส ที่สามารถใช้ทดแทนหลังคาเมทัลชีทได้ โดยคุณสมบัติเด่นของหลังคาเคมบล็อค มีดังนี้<br /><br />ทนทานต่อการกัดกร่อนได้สูงเป็นพิเศษ<br /><br />มีให้เลือกทั้งแบบโปร่งแสง และทึบแสงตามความต้องการใช้งาน<br /><br />ช่วยป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึม จากการเกิดสนิม<br /><br />ช่วยป้องกันความร้อน และสะท้อนรังสี UV<br /><br />แข็งแรงทนทาน และมีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 10 ปี<br /><br />มีการรับประกันสินค้าสูงสุด 20 ปี<br /><br />ช่วยลดค่าใช้จ่าย และค่าซ่อมบำรุงได้ดี เมื่อเทียบกับเมทัลชีท<br /><br />ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ดีในตอนกลางวัน<br /><br />ไม่ทำให้อากาศภายในโรงงาน หรืออาคารร้อนอบอ้าว<br /><br />นอกจากนี้ หลังคาโปร่งแสงและทึบแสงไฟเบอร์กลาส รุ่นเคมบล็อค ยังเหมาะกับ<br /><br />โรงงานผลิตปุ๋ย หรือสารเคมี<br /><br />โรงงานผลิต หรือเก็บเกลือ<br /><br />โรงงานบำบัดน้ำเสีย<br /><br />โรงไฟฟ้า<br /><br />โรงงานหลอมโลหะ<br /><br />โรงงานผลิตเยื่อกระดาษ<br /><br />โรงงานแปรรูปยาง<br /><br />โรงงานเกี่ยวกับกระบวนการปิโตรเคมี<br /><br />โรงฟอกหนัง และโรงงาน หรืออาคารที่อยู่ติดทะเล<br /><br />สุดท้ายนี้ หากต้องการหลังคาที่สามารถใช้ทดแทนหลังคาเมทัลชีท แอมเพิลไลท์ ขอแนะนำ หลังคาเคมบล็อค (Chemblok) เหมาะสำหรับโรงงาน หรืออาคารที่มีสภาวะกัดกร่อนรุนแรง ที่สำคัญหลังคาเคมบล็อคยังเป็นหลังคาที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาว ทั้งยังช่วยลดปัญหา และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ส่งผลให้หลังคาเคมบล็อคเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางธุรกิจของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี<br /><br />อย่างไรก็ตาม บริษัท แอมเพิลไลท์ ผู้ผลิตหลังคา และผนังโปร่งแสงไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 45 ปี และได้การรับรองมาตรฐาน AS 4256.3.2006 License no. SMKB 20629 จาก SAI GLOBAL ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิตที่น่าเชื่อถือ จากประเทศออสเตรเลีย สำหรับใครที่ต้องการสอบถาม หรือปรึกษาปัญหาเพิ่มเติม สามารถ ติดต่อแผนกประสานงานฝ่ายขาย ได้ที่ 082-782-6774 หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ สาขากิ่งแก้ว 02-312-4300, 02-103-4490<br /><br /> | |
Версия 14:03, 28 декабря 2023
นอกจากกระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องดินเผา และกระเบื้องเซรามิกแล้ว หลังคาเมทัลชีท ก็ถือเป็นวัสดุมุงหลังคายอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่นำมาใช้ติดตั้งเป็นหลังคาโรงงาน หรือสถานประกอบการ เพราะด้วยความที่วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน มีความทันสมัย และติดตั้งง่ายจึงทำให้เป็นที่นิยมนั่นเอง
ซึ่งบทความในวันนี้ แอมเพิลไลท์ จะมาบอกถึงความหลากหลายของ หลังคาเมทัลชีท พร้อมทั้งแนะนำหลังคาที่สามารถใช้ทดแทนเมทัลชีท ทั้งยังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า จะเป็นอย่างไรไปดูกัน
ทำความรู้จัก หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร ?
หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) คือ วัสดุมุงหลังคาสำหรับโรงงาน และสถานประกอบการณ์ มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กรีดลอน เคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 55% (Zinc-Aluminium) ที่นำมาขึ้นรูปลอน สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย
ไม่ว่าจะนำไปมุงหลังคา กรุผนัง หรือทำกันสาด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการกัดกร่อน ระบายความร้อน มีน้ำหนักเบา และมีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ก่อนติดตั้ง หลังคาเมทัลชีท มีข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง ดังนี้
ความหนาของหลังคาเมทัลชีท
หลังคาเมทัลชีท เป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีความหนาให้เลือกหลากหลาย เพราะความหนาแต่ละระดับจะเหมาะกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ความหนาของเมทัลชีทมีผลต่อการออกแบบ การรับน้ำหนักของโครงสร้าง และความแข็งแรงของโรงงานโดยตรง โดยความหนาของหลังคาเมทัลชีทที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน มีดังนี้
ความหนาเมทัลชีท 0.23-0.28 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดเล็ก เช่น ที่พักอาศัยชั่วคราว
ความหนาเมทัลชีท 0.30-0.35 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคา และผนังขนาดเล็กที่มีระยะแปไม่เกิน 1.2 เมตร เช่น บ้านพักอาศัย หรือกันสาดสำหรับต่อเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้าน
ความหนาเมทัลชีท 0.35-0.40 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดกลาง และงานผนังทั่วไป เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และขนาดกลาง
ความหนาเมทัลชีท 0.40-0.47 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
ความหนาเมทัลชีท 0.47 มิลลิเมตร เหมาะกับงานหลังคาขนาดใหญ่
เลือกหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน
หลังคา เป็นบริเวณที่มีปริมาณความร้อนส่วนใหญ่ผ่านเข้าสู่ตัวอาคาร เพราะเป็นส่วนที่ได้รับแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุด หลังคาจึงเป็นเหมือนป้อมปราการด่านแรกที่คอยปกป้องโรงงานจากความร้อน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกหลังคาเมทัลชีทที่มีการบุฉนวนกันความร้อนในตัว เนื่องจากจะช่วยลดความร้อนสะสม และช่วยลดเสียงดังรบกวน เมื่อฝนตกได้ในระดับหนึ่ง
ข้อดี และข้อเสีย ของหลังคาเมทัลชีท
ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท มีดังนี้
สั่งความยาวได้ตามต้องการ และช่วยลดปัญหาหลังคารั่วซึม
ระบายความร้อนได้ดีกว่าหลังคาคอนกรีต และหลังคากระเบื้อง
มีน้ำหนักเบา สามารถนำมาใช้ทำหลังคาได้หลายรูปแบบ
สามารถติดตั้งได้ในองศาที่ต่ำ โดยรองรับความชันได้ 4-5 องศา
ใช้ต้นทุนในการก่อสร้างต่ำกว่าหลังคากระเบื้อง เพราะมีน้ำหนักเบา
ช่วยประหยัดเหล็กทำโครงสร้างรองรับผืนเมทัลชีท
ใช้เวลาในการก่อสร้างรวดเร็ว จบงานได้ไว ด้วยความที่เป็นแผ่นใหญ่ทั้งผืน
มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการบิดงอได้ตามต้องการ สามารถตอบรับกับทุกการดีไซน์
ข้อเสียของเมทัลชีท มีดังนี้
เมทัลชีทจะมีเสียงดังรบกวนเมื่อฝนตก
หากต้องเปลี่ยนหลังคา หรือแผ่นหลังคาเกิดชำรุด
หลังคาเมทัลชีทมีอายุการใช้งานสั้นกว่าหลังคาทั่วไป อย่าง หลังคาไฟเบอร์กลาส เป็นต้น
หลังคาไฟเบอร์กลาส
หลังคาเคมบล็อค ใช้ทดแทนเมทัลชีท ตัวช่วยประหยัดไฟให้กับโรงงาน
ด้วยความที่หลังคาเมทัลชีทมีอายุการใช้งานสั้น โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้มุงหลังคาโรงงานที่มีการกัดกร่อนสูง หรือจากมลภาวะเลวร้ายรุนแรง แอมเพิลไลท์ จึงได้พัฒนาหลังคาไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูงที่ใช้สำหรับทดแทนแผ่นเมทัลชีท คือ หลังคาเคมบล็อค (Chemblok) เป็นหลังคาโปร่งแสงที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาส ที่สามารถใช้ทดแทนหลังคาเมทัลชีทได้ โดยคุณสมบัติเด่นของหลังคาเคมบล็อค มีดังนี้
ทนทานต่อการกัดกร่อนได้สูงเป็นพิเศษ
มีให้เลือกทั้งแบบโปร่งแสง และทึบแสงตามความต้องการใช้งาน
ช่วยป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึม จากการเกิดสนิม
ช่วยป้องกันความร้อน และสะท้อนรังสี UV
แข็งแรงทนทาน และมีอายุการใช้งานนานเกินกว่า 10 ปี
มีการรับประกันสินค้าสูงสุด 20 ปี
ช่วยลดค่าใช้จ่าย และค่าซ่อมบำรุงได้ดี เมื่อเทียบกับเมทัลชีท
ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ดีในตอนกลางวัน
ไม่ทำให้อากาศภายในโรงงาน หรืออาคารร้อนอบอ้าว
นอกจากนี้ หลังคาโปร่งแสงและทึบแสงไฟเบอร์กลาส รุ่นเคมบล็อค ยังเหมาะกับ
โรงงานผลิตปุ๋ย หรือสารเคมี
โรงงานผลิต หรือเก็บเกลือ
โรงงานบำบัดน้ำเสีย
โรงไฟฟ้า
โรงงานหลอมโลหะ
โรงงานผลิตเยื่อกระดาษ
โรงงานแปรรูปยาง
โรงงานเกี่ยวกับกระบวนการปิโตรเคมี
โรงฟอกหนัง และโรงงาน หรืออาคารที่อยู่ติดทะเล
สุดท้ายนี้ หากต้องการหลังคาที่สามารถใช้ทดแทนหลังคาเมทัลชีท แอมเพิลไลท์ ขอแนะนำ หลังคาเคมบล็อค (Chemblok) เหมาะสำหรับโรงงาน หรืออาคารที่มีสภาวะกัดกร่อนรุนแรง ที่สำคัญหลังคาเคมบล็อคยังเป็นหลังคาที่คุ้มค่าแก่การลงทุนในระยะยาว ทั้งยังช่วยลดปัญหา และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ส่งผลให้หลังคาเคมบล็อคเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางธุรกิจของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม บริษัท แอมเพิลไลท์ ผู้ผลิตหลังคา และผนังโปร่งแสงไฟเบอร์กลาสคุณภาพสูง ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 45 ปี และได้การรับรองมาตรฐาน AS 4256.3.2006 License no. SMKB 20629 จาก SAI GLOBAL ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิตที่น่าเชื่อถือ จากประเทศออสเตรเลีย สำหรับใครที่ต้องการสอบถาม หรือปรึกษาปัญหาเพิ่มเติม สามารถ ติดต่อแผนกประสานงานฝ่ายขาย ได้ที่ 082-782-6774 หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ สาขากิ่งแก้ว 02-312-4300, 02-103-4490
