------y — различия между версиями

Материал из ТОГБУ Компьютерный Центр
Перейти к: навигация, поиск
м (------y)
м (------y)
Строка 1: Строка 1:
Baccarat 웹사이트는 한 가지 핵심 방식으로 강조되어야 합니다.<br /><br />핵심어인 바카라(Bakara)의 어원에 대해 조금 이야기하자면 이해하는 데 큰 도움이 될 것입니다.<br /><br /><br /><br /><br /><br />Baccara는 프랑스어로 작성되고 Bscsrst는 이탈리아어로 작성됩니다.15세기경에 유럽의 프랑스와 이탈리아 지역에서 유래한 것으로 여겨진다.<br /><br />바카라 게임, 사람들 사이에서 점점 인기를 얻게 된 현대에 이르러 성장했으며, 다양한 기기와 기술이 발전함에 따라 뿐만 아니라 인터넷을 통해 온라인으로 사용하고 즐길 수 있는 바카라 사이트 회사.<br /><br />룰렛, 블랙잭, 포커를 포함한 많은 카지노 게임이 존재합니다.그리고 그 게임들 중에는 마틴게일 베팅, 파롤리 베팅, 10% 베팅 등 많은 베팅 방법이 있습니다. [https://www.spineggc79.com 에그벳계열] 바카라를 플레이하든 오프라인 바카라를 플레이하든 이러한 바카라 베팅 방법은 동일합니다.<br /><br />사용하기 쉽고 안전한 양질의 바카라 사이트를 찾는 데 도움이 필요하십니까? 당신이 우리를 신뢰한다면, 당신은 바로 이곳에있어.꼼꼼하고 철저한 맛집 검증 과정으로 유명한 신뢰할 수 있는 온라인 바카라 회사만을 추천하기 위해 최선을 다하고 있으며, 그 의미 탁월한 선택을 하셨습니다.<br /><br />실시간 바카라 사이트<br /><br />저희 회사는 실시간 최신 업데이트를 통해 고화질 라이브 방송을 제공하는 바카라 사이트에 추천 및 관련 정보를 제공하고 있습니다. 또한 주요 바카라 사이트 기업에 라이브 카지노 인프라 제품을 제공하고 실시간 온라인 바카라 게임을 모니터링합니다. 주요 바카라 사이트에서 비디오 스트리밍은 하루 24시간 연중무휴로 제공됩니다. 권장 보증 회사의 경우 카지노 라이센스가 있고 시장의 모든 규제 요구 사항을 준수하며 모든 고객에게 최고 수준의 서비스를 제공합니다.<br /><br />또한 세계 최고의 Evolution Baccarat 인프라를 구축하여 룰렛, 블랙잭, Baccarat 등 인기 있는 카지노 게임을 생중계할 것을 강력히 권장합니다. 모든 이벤트에는 모든 종류의 게임을 사용할 수 있는 전용 테이블이 있습니다.그들은 세계 최고의 딜러가 플레이합니다.<br /><br />안전한 바카라 사이트<br /><br />저희가 추천하는 보증인은 안전한 바카라 사이트 업체를 찾는 유저들에게 최고의 장소이자 바카라 사이트를 처음 접하는 초보자들에게도 좋은 선택이 될 것입니다. 저희가 추천하는 바카라 사이트에는 다양한 기기에 최적화된 모바일 솔루션이 잘 적용되어 있습니다. 신규유저 유입 면에서 매우 빠르고 원활하며 다양한 온라인 바카라 게임을 지속적으로 업데이트 하고 있으며, 타 메이저 사이트들과 마찬가지로 자유롭고 쾌적한 타율을 위한 최고의 시스템을 갖추고 있습니다.<br /><br />
+
ตรวจเช็กสุขภาพแล้วก็โรคประจำตัว ประวัติการการแพ้ยา จะต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเพื่อประเมินความพร้อม การเสี่ยงโดยเฉพาะคนที่มีประวัติการดูแลและรักษา อาทิเช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ร่วมถึงกำหนดการมีเมนส์ด้วย Click! อ่านต่อเรื่อง “มีโรคประจำตัวศัลยกรรมได้ไหม”งดเว้นรับประทานยาแก้ปวด แก้อักเสบก่อนเข้ารับการผ่าตัด งดรับประทานยาในกรุ๊ปแอสไพริน ( Aspirin ) รวมทั้งไอบูโพรเฟน ( Ibuprofen ) เพราะกรุ๊ปยาจำพวกนี้จะช่วยให้กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าเกิดรับประทานก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดอาจจะก่อให้เกิดอาการเลือดแข็งช้ารวมทั้งอาจมีอันตรายได้ การศัลยกรรมทรวงอกยอดเยี่ยมในความฝันที่สาวๆหลายคนต้องการทดลองทำซักครั้งในชีวิต เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความงดงามให้กับรูปร่างของตนเอง แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ยังลังเลถึงผลที่จะตามมา ไม่มั่นใจว่าจะปฏิบัติดีไหม ส่งผลข้างๆหรือไม่ แล้วก็จะต้องดูแลตนเองอย่างไรบ้าง? รวมทั้งนี่คือ 10 สิ่งสำคัญที่ควรจะทราบและก็ทำความเข้าใจ…ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมอก<br /><br />ข้อควรทราบก่อนทำศัลยกรรมอก หรือเสริมหน้าอก ข้อ 1 จำต้องถามตัวเองก่อนว่า ‘อยากได้อะไร?’ ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจทำสาวๆควรถามตนเองก่อนว่า ‘ตนเองต้องการอะไร?’ หรือ ‘ปัญหาของพวกเรา [https://bbs.pku.edu.cn/v2/jump-to.php?url=https://vproud-clinic.com ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี] เป็นยังไง?’ ก็เลยจะได้คำตอบว่าเพราะเหตุไรถึงจำต้องทำศัลยกรรมเสริมอก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาของคนที่ตัดสินใจศัลยกรรมทรวงอกมักจะมี 2 ข้อ เป็นถ้าแพ้ยา หรือ มีโรคประจำตัว โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดหมายผ่าตัด แม้มีโรคประจำตัวจำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำหมอประจำตัว หรืออายุรแพทย์ก่อนจะนัดหมายผ่าตัด ดังนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับเพื่อการผ่าตัดของผู้ป่วยเอง<br /><br /><br /><br /><br /><br />ในกรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทั้งทางจมูก ทางตารวมทั้งทางผิวหนัง จำต้องแจ้งให้หมอทราบก่อนนัดผ่าตัด ในกรณีที่มีประวัติเป็นโรคเริมและก็งูสวัดรอบๆร่างกายมาก่อน โปรดแจ้งให้หมอรู้ก่อนนัดผ่าตัด ต้องแจ้งให้แพทย์รู้เกี่ยวกับประวัติการแต่งหน้า ได้แก่ สารคลายกล้ามเนื้อ , ฟิลเลอร์ , ร้อยไหม , Meso Fat , ซิลิโคน , สารอควาลิฟ (Aqua Lift) , สารไบโอพลาสติก (Bioplastic) โดยเฉพาะที่เคยฉีดกับหมอกระเป๋า และก็ศัลยกรรมความสวยงามบนบริเวณใบหน้าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ดังนี้เพื่อช่วยสำหรับเพื่อการวางแผนผ่าตัดของหมออย่างถูกต้องแม่น ผลของการผ่าตัดดีรวมทั้งเป็นที่ถูกใจ ตลอดจนความปลอดภัยของคนเจ็บเองทั้งยังในระหว่างการผ่าตัด รวมทั้งหลังการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการผ่าตัดใหญ่ ในขณะมีระดู งดเว้นดูดบุหรี่ ตรงเวลา 2 เดือนที่แล้วและก็หลังผ่าตัด<br /><br />งดแอลกอฮอล์อย่างต่ำ 1 วัน งดเว้นดื่มกาแฟ (กรณีผู้ที่ทานในจำนวนที่มากเกินไป) เป็นเวลา 1 อาทิตย์ งดวิตามิน หรือ ยาที่ส่งผลต่อรูปแบบการทำงานของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากว่าจะมีผลให้เลือดหยุดไหลยากในขณะผ่าตัดแล้วก็หลังผ่าตัด แผลบวมช้ำมากเกินความจำเป็นข้างหลังการผ่าตัด แผลก็จะหายยากด้วย อาทิเช่น Fish oil , Vitamin C E , Green Tea ,Grape Seed (สารสกัดเม็ดองุ่น) สารสกัดแปะก๊วย (Gingko) , กระเทียม ฯลฯ อย่างต่ำ 1 สัปดาห์ ก่อนและข้างหลังการผ่าตัด หรือ โบทูไลนุ่มท็อกสิน เป็นสารพวกโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์สำหรับเพื่อการยับยั้งสัญญาณประสาทที่จะมากมายระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว ผลจึงทำให้กล้ามตึงมากขึ้น ขยับน้อยลงครับผม<br /><br />เรื่องจริง สารนี้มีชื่อว่า โบทูไลนุ่มท็อกสิน ขอรับ แต่ชื่อ โบท็อก ที่เราเรียกกันเคยปากนั้น เป็นชื่อทางการค้าของ ผลิตภัณฑ์ตัวโบทูไลนุ่มท็อกซิน ที่ผลิตมาจากบริษัทที่เป็นผู้คิดค้นรวมทั้งถือลิขสิทธิ์ บริษัทแรกของโลกขอรับ ซึ่งชื่อ โบท็อก อีกทั้งสั้นและก็เรียกง่าย ก็เลยเคยปากทั้งยังแพทย์และผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองขอรับ สาร โบทูไลนุ่มท็อกซิน หรือ โบท็อก เป็นสารที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่า คลอสทริเดียม โบทูไลนุ่ม Clostridium botulinum ซึ่งบางทีอาจจัดได้ว่าเป็น “พิษ” (ท็อกสิน toxin) (เนื่องจากในปริมาณที่มากๆมันจะมีฤทธิ์บล๊อคกล้ามผูกต่างๆของร่างกายเรา) แต่ว่าแม้ว่าจะจัดเป็นสารพิษ แม้กระนั้นถ้านำมาใช้ในขนาดที่น้อยๆเหมาะสมพอสม ก็สามารถนำเอามาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ให้คุณได้มากมายเลยทีเดียวขอรับโบท็อกกราม หรือ การฉีดโบลดกราม (Masseter Botox)<br /><br />การฉีดสาร Botulinum Toxin Type A หรือที่เรียกสั้นๆว่าโบท็อก (Botox) เข้าไปยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณฟันกรามชั่วครั้งคราว เมื่อกล้ามมิได้ถูกใช้งานหนักๆหรือบ่อยๆก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดที่เล็กลง หากแพทย์มีวิธีการเฉพาะสำหรับในการฉีดโบท็อกกรามยังสามารถปรับรูปหน้า V-shape ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งเรียกเคล็ดลับนี้ว่า การฉีดโบลิฟกรอบหน้า นอกจากนั้นการฉีดโบยังช่วยให้กล้ามที่หดเกร็งเกิดการคลายตัว ริ้วรอยจึงแลดูจางลงรวมทั้งตื้นขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนตามหลังฉีดโบหน้าเรียวควรงดเว้นนอนราบเป็นเวลาราวๆ 4 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองการไหลของโบท็อกซ์ งดเว้นการจับเส้นบริเวณที่ฉีดโบหน้าเรียว ตรงเวลา 1 เดือน หลบหลีกไม่ให้รอบๆที่ฉีดโบหน้าเรียวโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์<br /><br />เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้บริเวณใบหน้าเกิดอาการ fushing เป็นต้นว่า ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, ออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เพราะเหตุว่าความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น หลังฉีดโบหน้าเรียว หรือหลังการฉีดโบท็อกซ์บริเวณฟันกราม ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อ ฉีดโบท็อก หน้าเรียว รอบๆที่ฉีดได้ดิบได้ดียิ่งขึ้น งดเว้นการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แม้กระนั้นสามารถทาครีมได้ตามเดิมซึ่งตำแหน่งในการเกาะในแต่ละคนหรือบางทีผู้เดียวกันสองข้างก็เกาะไม่เท่ากัน ดูจากบางคนยิ้มแล้วมุมปากแตกต่างกันตอนแรกก็มี มันก็ค่อยๆมีต้นเหตุจากกล้ามเนื้อที่ชื่อไลโซเลียสนี่แหละ ซึ่งถ้าหมอที่มีประสบการณ์ จะมานะหลบหลีกกล้ามไลโซเลียส ให้คนป่วยอยู่แล้ว<br /><br />โดยการฉีดโบท็อกไม่ให้ตรงกับตำแหน่งที่เป็นกล้ามไลโซเลียส แต่ก็จะมีคนป่วยบางคนที่มีการเกาะตำแหน่งของกล้ามเนื้อไลโซเลียสผิดธรรมดาไปจากผู้อื่นธรรมดา แล้วนำมาซึ่งอาการปากเบี้ยวขึ้นมาได้จากการฉีดโบท็อก ซึ่งก็ไม่ใช่ผลถาวร พอเพียงผ่านระยะไป 1-2 เดือน ก็จะหายไปเอง แล้วหากหมอที่เคยเจอคนเจ็บเคสแบบนี้ ก็จะลงบันทึกประวัติไว้ให้คนไข้ว่ามีกล้ามเนื้อไลโซเลียสเกาะเปลี่ยนไปจากปกติโดยการฉีดโบท็อกครั้งต่อๆเป็นชื่อทางด้านการค้าของสารสกัดที่เรียกว่า โบทูลินัมท็อกสินเอ (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) หลายๆคนเรียกกันจนกระทั่งติดปากว่า โบทอก แต่หารู้ไม่ว่า กำลังเรียกชื่อยี่ห้อสารตัวนี้จนชิน แม้กระนั้นไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของเจ้าโบตัวนี้<br /><br />โบทอกออกฤทธิ์อย่างไร? สารตัวนี้นี้ มีความเป็นพิษอ่อนๆต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ถ้าเกิดได้รับโดยการกินจะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเหน็ดเหนื่อย แต่ว่าถ้าเกิดได้โดยการฉีดเฉพาะจุดในจำนวนเหมาะสม จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งในวงการแพทย์ มีการประยุกต์ใช้สำหรับในการรักษาโรคตาเข ตาเข นอกจากนี้ยังมีผลดีในแวดวงเสริมความงดงาม ทำให้หน้าเรียวงาม ถ้าหากฉีดบริเวณใต้ตา หางตา หน้าผาก จะก่อให้ริ้วรอยเลือนหาย ย้อนวัยกันอย่างยิ่งจริงๆนั่ม<br /><br />ท็อกซิน เอ (ฺBotulinum Toxin A) หรือที่รู้จักคุ้นเคยกันจนเกิดความเคยชินหูว่า “โบท็อกซ์ (Botox)” นั้น เป็นตัวยาที่นำมาซึ่งการอัมพาตของกล้ามเนื้อชั่วขณะ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Bacterium Clostridium Botulinum) หากได้รับในจำนวนมากบางทีก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างเช่น ในกรณีหลังได้รับโบท็อกซ์ที่ปนเปื้อนมาในของกินที่รับประทานหลายชิ้น บางครั้งก็อาจจะทำกล้ามเนื้อเครื่องกั้นลมหยุดดำเนินงาน หายใจไม่ออกได้ผิวหน้าของคนเราเปรียบได้ดั่งผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดหน้าตึงๆหนึ่งผืน ซึ่งความตึงนี้มาจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะปฏิบัติภารกิจคอยขึงให้ผิวหนังของพวกเราเต่งตึงรวมทั้งมีความยืดหยุ่นตลอดระยะเวลา<br /><br />แต่เมื่อแก่ขึ้นเรื่อยรวมทั้งการพบเจอกับแดดและความเคร่งเครียดที่สะสมไปตามวัย จะก่อให้คอลลาเจนรวมทั้งอีลาสตินเริ่มลดน้อยลง ทำให้ในเวลาที่พวกเรายิ้ม ขมวดคิ้ว หรือเลิกหน้าผาก รอยย่นต่างๆก็จะเริ่มผุดขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่าสมองของพวกเราสั่งการให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าหดตัวเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ จนกระทั่งทำให้ผิวหนังใกล้กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เปรียบได้กับการขยุ้มผ้าเช็ดหน้า จากที่ตึงๆอยู่มันก็จะค่อยๆขยับเข้ามารวมเป็นกระจุก จนกระทั่งกำเนิดเป็นรอยย่นที่เห็นกระจ่างเยอะขึ้นนั่นเองการฉีดโบท็อกซ์กรามนั้นเป็นการฉีด Botox เพื่อปรับรูปหน้า โดยใช้ตัวยาในโบท็อกซ์ที่ชื่อว่า Botulinum Toxin A ที่สกัดมาจากแบคทีเรียเพื่อออกฤทธิ์ไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามขยับได้ จนถึงส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ด้วยเหตุนั้น<br /><br />การฉีดโบท็อกซ์ลดฟันกราม ก็เลยช่วยให้ผู้ที่มีลักษณะบริเวณใบหน้าฟันกรามกระจ่างมองสมส่วนขึ้น เนื่องจากรูปหน้าเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งที่สำคัญ วิธีการทำโบท็อกซ์กรามยังสามารถช่วยลดลางเลือนริ้วรอย รวมทั้งรอยย่นในรอบๆใกล้เคียงได้อีกด้วย จริงๆแล้วคำว่า โบท็อก (BOTOX) ที่เรารู้จักรวมทั้งเรียกกันจนถึงเคยปากนี้ มาจากชื่อทางด้านการค้า ของของบริษัทยา Allergan ที่เป็นผู้แทนจำหน่าย ผลิตรวมทั้งพัฒนาเวชภัณฑ์รายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกและมีชื่อเสียงทั่วโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ฉีดเพื่อช่วยลดเรือนริ้วรอย ไม่ว่ายี่ห้ออะไรมาจากประเทศไหน ก็จะถูกเรียกว่าโบท็อกทั้งหมดทั้งปวงนั่นเอง<br /><br />โบท็อก (BOTOX) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกสิน เอ (Botulinum toxin type A) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สกัดจากแบคทีเรียที่มีสาระอย่าง คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ซึ่งในตอนแรกสารนี้ทางวงการแพทย์เอาไว้ใช้เพื่อรักษาโรค ตาเข กล้ามเนื้อตากระตุก รวมทั้งอาการปวดหัวไมเกรน ด้วยเหตุว่า มีฤทธิ์ช่วยทำให้กล้ามคลายในบริเวณที่หดตัว กล้ามเนื้ออ่อนกำลังลง รวมทั้งหดเล็กลงในที่สุด จึงได้ปรับปรุงมาใช้ในแวดวงเสริมความสวย อย่างการช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าแบรนด์ของโบท็อกซ์ที่ฉีด ถ้าเกิดเลือกโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายดายยิ่งกว่าโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนสูง<br /><br />ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อผูกใหญ่ ดังเช่นว่า แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามมากมาย ฉะนั้นกล้ามก็เลยกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ก็เลยสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ซึ่งจำเป็นต้องอยู่สำหรับในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์นอกจากนั้นโบท็อกยังช่วยลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามน่องได้ ทั้งนี้ เพื่อโบท็อกปลิวน้อยที่สุด คงจะความสามารถดีที่สุด และให้ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้เป็นเวลายาวนานกว่าปกติ ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียม ดังนี้<br /><br />เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานรวมทั้งใช้โบท็อกแท้ : ก่อนฉีดโบท็อก ผู้เจ็บป่วยควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่อยากได้ฉีดอย่างระมัดระวัง ว่ามีการเปิดให้บริการอย่างแม่นยำ ตามมาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ สามารถสำรวจกับบริษัทนำเข้าได้ เพราะว่าโบท็อกแท้มีความบริสุทธิ์สูง กระจายตัวต่ำ ฉีดจุดไหนให้ผลลัพธ์ที่จุดนั้น ไม่มีโอกาสเสี่ยงต่อการดื้อรั้นโบท็อกสำหรับการฉีดคราวต่อมาการแสดงผลของโบท็อกนั้นก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนรวมทั้งยังอยู่ที่มีการฉีดสารตัวนี้เข้าบริเวณไหนของร่างกาย โดยที่ภายหลังฉีดเข้าไปภายในร่างกายแล้วรอบๆที่ฉีดเข้าไปจะมีความรู้สึกตึงและค่อยๆได้ผล ส่วนใหญ่จะเริ่มออกฤทธิ์ 2-3 วันรวมทั้งจะมีผลสูงสุดในระยะเวลา 2 อาทิตย์ เว้นเสียแต่บางรอบๆเช่น กราม ที่จะใช้เวลานานกว่าส่วนอื่นๆเป็นโดยประมาณ 1-2 เดือนถึงจะมองเห็นความเคลื่อนไหวแจ่มแจ้งที่สุด<br /><br />หรือ เป็นสารธรรมชาติสารพัดประโยชน์สำหรับเสริมสวย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีนำเข้าทั้งยังจากประเทศเกาหลี,อังกฤษ,เยอรมันและก็อเมริกา มีคุณสมบัติที่สะดุดตาในการช่วยลดการหดตัวของกล้าม ช่วยลดลางเลือนริ้วรอย เพื่อมองอ่อนวัยขึ้น ช่วยเปิดดวงตาให้โตแจ่มใสและก็ชูคิ้วจัดการกับปัญหาขนคิ้วตก หน้าผาก หางตา ใต้ตา บริเวณที่นิยมฉีดโบท๊อกซ์ เป็นต้นว่า หน้าผาก,หว่างขนคิ้ว,หางตาหรือตีนกา,ปีกจมูก,ใต้ตาแก้ม, ข้างล่างของปากรวมทั้งส่วนของลำคอ ยิ่งไปกว่านี้ยัง ลดกรามปรับรูปหน้าเรียว V-Shape,ช่วยชูกระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียว (Nefertiti's Lift) ,บริเวณจั๊กกะแร้เพื่อลดลักษณะการทำงานของต่อม<br /><br />การฉีดสารที่มีชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกสิน เอ (Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดยฉีดเข้าที่เข้าทางกล้ามบริเวณกราม ส่งผลทำให้มัดกล้ามดำเนินงานลดลงชั่วครั้งชั่วคราว และก็ทำให้ขนาดกล้ามเล็กทำให้บริเวณใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยจะให้ผลที่ดีเยี่ยมในเคสผู้ป่วยมีกล้าม หลัง ฉีดโบท็อก รอบๆกรามเยอะมากๆรวมทั้งสามารถอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ต่อการฉีด 1 ครั้งช่วยลดริ้วรอย โดยฉีดบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้กล้ามขยับได้ลดลง ริ้วรอยบนใบหน้าแล้วก็ค่อยๆต่ำลง ช่วยปรับรูปหน้า ฉีดตรงแนวขากรรไกร กราม เพื่อปรับใบหน้าให้เล็กแล้วก็เรียวขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิว โดยจะฉีดไปที่กล้ามเนื้อและก็ต่อมไขมัน เมื่อฉีดเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานมากแค่ไหน ? การฉีดโบท็อกซ์นั้น “ผลสรุปของการฉีดโบท็อกซ์นั้นมิได้อยู่ถาวร” โดยทั่วไปแล้วโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ได้นาน 4-8 เดือน โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น<br /><br />ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้ แบรนด์ของโบท็อกซ์ที่ฉีด ถ้าหากเลือกฉีดโบหน้าเรียวที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ภายในร่างกายได้ยาวนานกว่า ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ด้วยเหตุนี้กล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ก็เลยสั้นกว่า ซึ่งในส่วนของการฉีดโบหน้าเรียวนั้น เป็นการฉีดกล้ามรอบๆกราม ซึ่งเป็นกล้ามผูกเล็ก ก็จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน แม้กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วยจ้ะการฉีดโบลดฟันกราม หรือการ ฉีดหน้าเรียว (Botox for Masseter Reduction / V-line Procedure / Masseter Hypertrophy) เป็นการนำหัตถการการฉีดโบท็อกซ์มาใช้เพื่อลดขนาดกล้ามบริเวณฟันกราม เพื่อมีรูปหน้าที่เรียวเล็กกว่าเดิม และก็ทำให้กรอบหน้ารวมทั้งสันกรามชัดขึ้นด้วย<br /><br />ก่อนจะทราบกระบวนการลดฟันกราม ควรจะรู้จักกับโบท็อกซ์ก่อน การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) คือหัตถการอย่างหนึ่ง ที่จะใช้สารที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียจำพวก Anaerobic ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ฉีดเข้าไปที่รอบๆผิวหนังรวมทั้งกล้ามเนื้อ สารจำพวกนี้จะไปออกฤทธิ์กับระบบประสาทในบริเวณที่ฉีด โบท็อกซ์จะไปรบกวนการตอบสนองของกล้ามต่อสารเคมีที่ส่งมาจากระบบประสาท (Neuromodulator) ทำให้ระบบประสาทไม่สามารถที่จะสั่งงานกล้ามเนื้อให้ดำเนินงานได้ป็นชื่อทางด้านการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนประเภทหนึ่งที่สกัดได้จากแบคทีเรียครอสตรเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่ถูกศึกษาและทำการค้นพบโดยหมอชาวอเมริกันว่าสารตัวนี้สามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) เมื่อฉีดเข้าผิวในปริมาณที่เหมาะเจาะ<br /><br />จะส่งผลให้มัดกล้ามในบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต ช่วยยั้งไม่ให้กล้ามหดหรือเกร็งตัวตรงเวลาชั่วครั้งคราว เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวและทำงานได้ลดน้อยลง ปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่ก็จะดูดีขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยใหม่ๆหลังฉีดโบท็อกซ์ผิวก็จะยิ่งมองสวยกระชับ และก็อ่อนเยาว์มากขึ้นค่ะ าต้องการนวดหน้า อบไอน้ำ ซาวน์น่า โยคะร้อน หรือมีกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องพบกับความร้อน ควรจะทำให้เสร็จก่อนวันที่นัดฉีดโบท็อกซ์ เพราะเหตุว่า 2-4 สัปดาห์ข้างหลังฉีด จะไม่สามารถทำกิจกรรมพวกนี้ได้ เนื่องมาจากความร้อนทำให้โบท็อกซ์สลายหรือเสื่อมฤทธิ์เร็วกว่าปกติ งดเว้นการใช้ยาแล้วก็วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก จัดเตรียมงดยาบางชนิดแล้วก็วิตามินบางอย่างเป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีด เพื่อลดอาการเขียวบอบช้ำ ยกตัวอย่างเช่น<br /><br />ยาแก้ปวดกรุ๊ป NSAIDs ดังเช่นว่า brufen, ponstan, naproxen, arcoxia, celebrex และอื่นๆ<br /><br />วิตามินอี, น้ำมันปลา (fish oil), ใบแปะก๊วย หากมียาอื่นๆที่จำเป็นต้องรับประทานเสมอๆ แพทย์ชี้แนะให้ขอความเห็นแพทย์ก่อนว่ายาที่กินอยู่จึงควรหยุดหรือไม่ ดังนี้ ห้ามหยุดยาเอง เพราะเหตุว่าบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายจากการขาดยา และก็ยาจำนวนมาก เช่น ยาลดความดัน ยาโรคเบาหวาน ยาลดไขมัน ยาแก้แพ้ ยารักษาสิว ยาจิตเวช ไม่จำเป็นที่ต้องหยุด หลังฉีดทันที ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เพื่อกระจายตัวยาให้ออกฤทธิ์สุดกำลัง ข้างหลังฉีดงดเว้นนอนราบ ตรงเวลาโดยประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองปกป้องการไหลของโบ งดประคบร้อน ทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน หรืออยู่ใกล้บริเวณที่ร้อนมาก เป็นเวลา 1 - 2 อาทิตย์ หลบหลีกกิจกรรมที่นำไปสู่ความร้อนในชั้นผิว ยกตัวอย่างเช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก เดินที่โล่งแจ้งที่แดดร้อนอบอ้าว เป็นต้น<br /><br />กรณีฉีดรอบๆกราม ข้างหลังฉีดโดยทันทีให้บดหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยสลับซ้ายขวาตรงเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อที่ฉีดได้ดิบได้ดีเพิ่มขึ้น ข้างหลังฉีดโดยประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามเดิม แม้มีรอยนูนแดงที่ผิว จะหายไปเองภายในช่วงเวลา 1 – 2 ชั่วโมงหลังฉีดกลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะช่วยยั้บยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทและก็ทำให้กล้ามรอบๆนั้นหยุดทำงานชั่วครั้งคราว จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าท่าทางและก็รอยพับรอบๆต่างๆเจริญครับผม ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ? ถ้าหากเป็นโบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน ส่วนโบท็อกปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลใน 1 เดือน ได้ผลสุดกำลัง 2-3 เดือนครับผม<br /><br />อ่านบทความเพิ่ม ฉีดโบท็อก อันตรายไหม มีข้อดี ข้อผิดพลาดอย่างไร ? เลื [http://court.khotol.se.gov.mn/user/shakecast1/ ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล] ี่ตามมาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ก่อนฉีดโบท็อก ควรที่จะเลือกคลินิกที่น่าไว้วางใจ สำรวจได้ว่าผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข และเข้าไปขอความเห็นกับหมอที่มีประสบการณ์โดยตรงครับผม หมอจะช่วยประเมินบริเวณใบหน้า และแนะนำโบท็อกที่เหมาะสมกับแต่ละเคสได้ก่อนที่จะรู้แนวทางการดูแลตัวเองข้างหลังฉีดโบท็อก มีวิธีการดูแล หรือข้อที่ไม่อนุญาตข้างหลังฉีดโบท็อกอย่างไรบ้าง แพทย์ขออธิบายถึงกลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อก เพื่อรู้เรื่องวิธีทำตัวก่อนฉีด-ข้างหลังฉีดโบท็อก ว่าทำเพื่ออะไร คนเจ็บจะเข้าใจแล้วก็จำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นครับผม<br /><br />ยี่ห้อของโบท็อกที่ฉีด ถ้าหากเลือกโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้ยาวนานกว่า ด้วยเหตุว่าร่างกายจะทำลายโปรตีนด้ามจับกับโบท็อก โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากยิ่งกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายยิ่งกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อผูกใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามมากมาย ดังนั้นกล้ามก็เลยกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามผูกเล็ก อย่างเช่น กราม หน้าผาก หางตา ดังนี้ขึ้นกับจำนวนโบท็อกที่ใช้ ซึ่งจะต้องอยู่สำหรับเพื่อการประเมินโดยหมอที่มีประสบการณ์ หลายๆคนจะมีความรู้สึกวิตกกังวลว่าเมื่อโบท็อกสิ้นฤทธิ์จะมีผลให้กล้ามกลับมาใหญ่มากยิ่งกว่าเดิมไหม ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าโบท็อกทำให้กล้ามมัดที่ฉีดไปทำงานลดลง ขนาดกล้ามก็เลยเล็กลง พอหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะกลับมาทำงานมากขึ้น ขนาดกล้ามจะค่อยๆเพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นกับการใช้แรงงาน ถ้าหากใช้งานมากก็ได้โอกาสสูงที่ผูกกล้ามจะมีขนาดกลับมาเหมือนเดิม<br /><br />

Версия 20:14, 11 сентября 2023

ตรวจเช็กสุขภาพแล้วก็โรคประจำตัว ประวัติการการแพ้ยา จะต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเพื่อประเมินความพร้อม การเสี่ยงโดยเฉพาะคนที่มีประวัติการดูแลและรักษา อาทิเช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ร่วมถึงกำหนดการมีเมนส์ด้วย Click! อ่านต่อเรื่อง “มีโรคประจำตัวศัลยกรรมได้ไหม”งดเว้นรับประทานยาแก้ปวด แก้อักเสบก่อนเข้ารับการผ่าตัด งดรับประทานยาในกรุ๊ปแอสไพริน ( Aspirin ) รวมทั้งไอบูโพรเฟน ( Ibuprofen ) เพราะกรุ๊ปยาจำพวกนี้จะช่วยให้กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ด้วยเหตุดังกล่าวถ้าเกิดรับประทานก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดอาจจะก่อให้เกิดอาการเลือดแข็งช้ารวมทั้งอาจมีอันตรายได้ การศัลยกรรมทรวงอกยอดเยี่ยมในความฝันที่สาวๆหลายคนต้องการทดลองทำซักครั้งในชีวิต เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความงดงามให้กับรูปร่างของตนเอง แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ยังลังเลถึงผลที่จะตามมา ไม่มั่นใจว่าจะปฏิบัติดีไหม ส่งผลข้างๆหรือไม่ แล้วก็จะต้องดูแลตนเองอย่างไรบ้าง? รวมทั้งนี่คือ 10 สิ่งสำคัญที่ควรจะทราบและก็ทำความเข้าใจ…ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมอก

ข้อควรทราบก่อนทำศัลยกรรมอก หรือเสริมหน้าอก ข้อ 1 จำต้องถามตัวเองก่อนว่า ‘อยากได้อะไร?’ ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจทำสาวๆควรถามตนเองก่อนว่า ‘ตนเองต้องการอะไร?’ หรือ ‘ปัญหาของพวกเรา ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี เป็นยังไง?’ ก็เลยจะได้คำตอบว่าเพราะเหตุไรถึงจำต้องทำศัลยกรรมเสริมอก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาของคนที่ตัดสินใจศัลยกรรมทรวงอกมักจะมี 2 ข้อ เป็นถ้าแพ้ยา หรือ มีโรคประจำตัว โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดหมายผ่าตัด แม้มีโรคประจำตัวจำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำหมอประจำตัว หรืออายุรแพทย์ก่อนจะนัดหมายผ่าตัด ดังนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับเพื่อการผ่าตัดของผู้ป่วยเอง





ในกรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทั้งทางจมูก ทางตารวมทั้งทางผิวหนัง จำต้องแจ้งให้หมอทราบก่อนนัดผ่าตัด ในกรณีที่มีประวัติเป็นโรคเริมและก็งูสวัดรอบๆร่างกายมาก่อน โปรดแจ้งให้หมอรู้ก่อนนัดผ่าตัด ต้องแจ้งให้แพทย์รู้เกี่ยวกับประวัติการแต่งหน้า ได้แก่ สารคลายกล้ามเนื้อ , ฟิลเลอร์ , ร้อยไหม , Meso Fat , ซิลิโคน , สารอควาลิฟ (Aqua Lift) , สารไบโอพลาสติก (Bioplastic) โดยเฉพาะที่เคยฉีดกับหมอกระเป๋า และก็ศัลยกรรมความสวยงามบนบริเวณใบหน้าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ดังนี้เพื่อช่วยสำหรับเพื่อการวางแผนผ่าตัดของหมออย่างถูกต้องแม่น ผลของการผ่าตัดดีรวมทั้งเป็นที่ถูกใจ ตลอดจนความปลอดภัยของคนเจ็บเองทั้งยังในระหว่างการผ่าตัด รวมทั้งหลังการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการผ่าตัดใหญ่ ในขณะมีระดู งดเว้นดูดบุหรี่ ตรงเวลา 2 เดือนที่แล้วและก็หลังผ่าตัด

งดแอลกอฮอล์อย่างต่ำ 1 วัน งดเว้นดื่มกาแฟ (กรณีผู้ที่ทานในจำนวนที่มากเกินไป) เป็นเวลา 1 อาทิตย์ งดวิตามิน หรือ ยาที่ส่งผลต่อรูปแบบการทำงานของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากว่าจะมีผลให้เลือดหยุดไหลยากในขณะผ่าตัดแล้วก็หลังผ่าตัด แผลบวมช้ำมากเกินความจำเป็นข้างหลังการผ่าตัด แผลก็จะหายยากด้วย อาทิเช่น Fish oil , Vitamin C E , Green Tea ,Grape Seed (สารสกัดเม็ดองุ่น) สารสกัดแปะก๊วย (Gingko) , กระเทียม ฯลฯ อย่างต่ำ 1 สัปดาห์ ก่อนและข้างหลังการผ่าตัด หรือ โบทูไลนุ่มท็อกสิน เป็นสารพวกโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์สำหรับเพื่อการยับยั้งสัญญาณประสาทที่จะมากมายระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว ผลจึงทำให้กล้ามตึงมากขึ้น ขยับน้อยลงครับผม

เรื่องจริง สารนี้มีชื่อว่า โบทูไลนุ่มท็อกสิน ขอรับ แต่ชื่อ โบท็อก ที่เราเรียกกันเคยปากนั้น เป็นชื่อทางการค้าของ ผลิตภัณฑ์ตัวโบทูไลนุ่มท็อกซิน ที่ผลิตมาจากบริษัทที่เป็นผู้คิดค้นรวมทั้งถือลิขสิทธิ์ บริษัทแรกของโลกขอรับ ซึ่งชื่อ โบท็อก อีกทั้งสั้นและก็เรียกง่าย ก็เลยเคยปากทั้งยังแพทย์และผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองขอรับ สาร โบทูไลนุ่มท็อกซิน หรือ โบท็อก เป็นสารที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่า คลอสทริเดียม โบทูไลนุ่ม Clostridium botulinum ซึ่งบางทีอาจจัดได้ว่าเป็น “พิษ” (ท็อกสิน toxin) (เนื่องจากในปริมาณที่มากๆมันจะมีฤทธิ์บล๊อคกล้ามผูกต่างๆของร่างกายเรา) แต่ว่าแม้ว่าจะจัดเป็นสารพิษ แม้กระนั้นถ้านำมาใช้ในขนาดที่น้อยๆเหมาะสมพอสม ก็สามารถนำเอามาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ให้คุณได้มากมายเลยทีเดียวขอรับโบท็อกกราม หรือ การฉีดโบลดกราม (Masseter Botox)

การฉีดสาร Botulinum Toxin Type A หรือที่เรียกสั้นๆว่าโบท็อก (Botox) เข้าไปยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณฟันกรามชั่วครั้งคราว เมื่อกล้ามมิได้ถูกใช้งานหนักๆหรือบ่อยๆก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดที่เล็กลง หากแพทย์มีวิธีการเฉพาะสำหรับในการฉีดโบท็อกกรามยังสามารถปรับรูปหน้า V-shape ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งเรียกเคล็ดลับนี้ว่า การฉีดโบลิฟกรอบหน้า นอกจากนั้นการฉีดโบยังช่วยให้กล้ามที่หดเกร็งเกิดการคลายตัว ริ้วรอยจึงแลดูจางลงรวมทั้งตื้นขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนตามหลังฉีดโบหน้าเรียวควรงดเว้นนอนราบเป็นเวลาราวๆ 4 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองการไหลของโบท็อกซ์ งดเว้นการจับเส้นบริเวณที่ฉีดโบหน้าเรียว ตรงเวลา 1 เดือน หลบหลีกไม่ให้รอบๆที่ฉีดโบหน้าเรียวโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์

เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้บริเวณใบหน้าเกิดอาการ fushing เป็นต้นว่า ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, ออกกำลังกายอย่างหนัก, อบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น เพราะเหตุว่าความร้อนจะสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น หลังฉีดโบหน้าเรียว หรือหลังการฉีดโบท็อกซ์บริเวณฟันกราม ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อ ฉีดโบท็อก หน้าเรียว รอบๆที่ฉีดได้ดิบได้ดียิ่งขึ้น งดเว้นการทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แม้กระนั้นสามารถทาครีมได้ตามเดิมซึ่งตำแหน่งในการเกาะในแต่ละคนหรือบางทีผู้เดียวกันสองข้างก็เกาะไม่เท่ากัน ดูจากบางคนยิ้มแล้วมุมปากแตกต่างกันตอนแรกก็มี มันก็ค่อยๆมีต้นเหตุจากกล้ามเนื้อที่ชื่อไลโซเลียสนี่แหละ ซึ่งถ้าหมอที่มีประสบการณ์ จะมานะหลบหลีกกล้ามไลโซเลียส ให้คนป่วยอยู่แล้ว

โดยการฉีดโบท็อกไม่ให้ตรงกับตำแหน่งที่เป็นกล้ามไลโซเลียส แต่ก็จะมีคนป่วยบางคนที่มีการเกาะตำแหน่งของกล้ามเนื้อไลโซเลียสผิดธรรมดาไปจากผู้อื่นธรรมดา แล้วนำมาซึ่งอาการปากเบี้ยวขึ้นมาได้จากการฉีดโบท็อก ซึ่งก็ไม่ใช่ผลถาวร พอเพียงผ่านระยะไป 1-2 เดือน ก็จะหายไปเอง แล้วหากหมอที่เคยเจอคนเจ็บเคสแบบนี้ ก็จะลงบันทึกประวัติไว้ให้คนไข้ว่ามีกล้ามเนื้อไลโซเลียสเกาะเปลี่ยนไปจากปกติโดยการฉีดโบท็อกครั้งต่อๆเป็นชื่อทางด้านการค้าของสารสกัดที่เรียกว่า โบทูลินัมท็อกสินเอ (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) หลายๆคนเรียกกันจนกระทั่งติดปากว่า โบทอก แต่หารู้ไม่ว่า กำลังเรียกชื่อยี่ห้อสารตัวนี้จนชิน แม้กระนั้นไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของเจ้าโบตัวนี้

โบทอกออกฤทธิ์อย่างไร? สารตัวนี้นี้ มีความเป็นพิษอ่อนๆต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ถ้าเกิดได้รับโดยการกินจะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเหน็ดเหนื่อย แต่ว่าถ้าเกิดได้โดยการฉีดเฉพาะจุดในจำนวนเหมาะสม จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งในวงการแพทย์ มีการประยุกต์ใช้สำหรับในการรักษาโรคตาเข ตาเข นอกจากนี้ยังมีผลดีในแวดวงเสริมความงดงาม ทำให้หน้าเรียวงาม ถ้าหากฉีดบริเวณใต้ตา หางตา หน้าผาก จะก่อให้ริ้วรอยเลือนหาย ย้อนวัยกันอย่างยิ่งจริงๆนั่ม

ท็อกซิน เอ (ฺBotulinum Toxin A) หรือที่รู้จักคุ้นเคยกันจนเกิดความเคยชินหูว่า “โบท็อกซ์ (Botox)” นั้น เป็นตัวยาที่นำมาซึ่งการอัมพาตของกล้ามเนื้อชั่วขณะ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Bacterium Clostridium Botulinum) หากได้รับในจำนวนมากบางทีก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างเช่น ในกรณีหลังได้รับโบท็อกซ์ที่ปนเปื้อนมาในของกินที่รับประทานหลายชิ้น บางครั้งก็อาจจะทำกล้ามเนื้อเครื่องกั้นลมหยุดดำเนินงาน หายใจไม่ออกได้ผิวหน้าของคนเราเปรียบได้ดั่งผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดหน้าตึงๆหนึ่งผืน ซึ่งความตึงนี้มาจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะปฏิบัติภารกิจคอยขึงให้ผิวหนังของพวกเราเต่งตึงรวมทั้งมีความยืดหยุ่นตลอดระยะเวลา

แต่เมื่อแก่ขึ้นเรื่อยรวมทั้งการพบเจอกับแดดและความเคร่งเครียดที่สะสมไปตามวัย จะก่อให้คอลลาเจนรวมทั้งอีลาสตินเริ่มลดน้อยลง ทำให้ในเวลาที่พวกเรายิ้ม ขมวดคิ้ว หรือเลิกหน้าผาก รอยย่นต่างๆก็จะเริ่มผุดขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่าสมองของพวกเราสั่งการให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าหดตัวเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ จนกระทั่งทำให้ผิวหนังใกล้กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เปรียบได้กับการขยุ้มผ้าเช็ดหน้า จากที่ตึงๆอยู่มันก็จะค่อยๆขยับเข้ามารวมเป็นกระจุก จนกระทั่งกำเนิดเป็นรอยย่นที่เห็นกระจ่างเยอะขึ้นนั่นเองการฉีดโบท็อกซ์กรามนั้นเป็นการฉีด Botox เพื่อปรับรูปหน้า โดยใช้ตัวยาในโบท็อกซ์ที่ชื่อว่า Botulinum Toxin A ที่สกัดมาจากแบคทีเรียเพื่อออกฤทธิ์ไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามขยับได้ จนถึงส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง ด้วยเหตุนั้น

การฉีดโบท็อกซ์ลดฟันกราม ก็เลยช่วยให้ผู้ที่มีลักษณะบริเวณใบหน้าฟันกรามกระจ่างมองสมส่วนขึ้น เนื่องจากรูปหน้าเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งที่สำคัญ วิธีการทำโบท็อกซ์กรามยังสามารถช่วยลดลางเลือนริ้วรอย รวมทั้งรอยย่นในรอบๆใกล้เคียงได้อีกด้วย จริงๆแล้วคำว่า โบท็อก (BOTOX) ที่เรารู้จักรวมทั้งเรียกกันจนถึงเคยปากนี้ มาจากชื่อทางด้านการค้า ของของบริษัทยา Allergan ที่เป็นผู้แทนจำหน่าย ผลิตรวมทั้งพัฒนาเวชภัณฑ์รายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแบรนด์แรกและมีชื่อเสียงทั่วโลก ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ฉีดเพื่อช่วยลดเรือนริ้วรอย ไม่ว่ายี่ห้ออะไรมาจากประเทศไหน ก็จะถูกเรียกว่าโบท็อกทั้งหมดทั้งปวงนั่นเอง

โบท็อก (BOTOX) หรือ โบทูลินั่ม ท็อกสิน เอ (Botulinum toxin type A) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สกัดจากแบคทีเรียที่มีสาระอย่าง คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ซึ่งในตอนแรกสารนี้ทางวงการแพทย์เอาไว้ใช้เพื่อรักษาโรค ตาเข กล้ามเนื้อตากระตุก รวมทั้งอาการปวดหัวไมเกรน ด้วยเหตุว่า มีฤทธิ์ช่วยทำให้กล้ามคลายในบริเวณที่หดตัว กล้ามเนื้ออ่อนกำลังลง รวมทั้งหดเล็กลงในที่สุด จึงได้ปรับปรุงมาใช้ในแวดวงเสริมความสวย อย่างการช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าแบรนด์ของโบท็อกซ์ที่ฉีด ถ้าเกิดเลือกโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายดายยิ่งกว่าโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนสูง

ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อผูกใหญ่ ดังเช่นว่า แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามมากมาย ฉะนั้นกล้ามก็เลยกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ก็เลยสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ซึ่งจำเป็นต้องอยู่สำหรับในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์นอกจากนั้นโบท็อกยังช่วยลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามน่องได้ ทั้งนี้ เพื่อโบท็อกปลิวน้อยที่สุด คงจะความสามารถดีที่สุด และให้ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้เป็นเวลายาวนานกว่าปกติ ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียม ดังนี้

เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานรวมทั้งใช้โบท็อกแท้ : ก่อนฉีดโบท็อก ผู้เจ็บป่วยควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่อยากได้ฉีดอย่างระมัดระวัง ว่ามีการเปิดให้บริการอย่างแม่นยำ ตามมาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ สามารถสำรวจกับบริษัทนำเข้าได้ เพราะว่าโบท็อกแท้มีความบริสุทธิ์สูง กระจายตัวต่ำ ฉีดจุดไหนให้ผลลัพธ์ที่จุดนั้น ไม่มีโอกาสเสี่ยงต่อการดื้อรั้นโบท็อกสำหรับการฉีดคราวต่อมาการแสดงผลของโบท็อกนั้นก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนรวมทั้งยังอยู่ที่มีการฉีดสารตัวนี้เข้าบริเวณไหนของร่างกาย โดยที่ภายหลังฉีดเข้าไปภายในร่างกายแล้วรอบๆที่ฉีดเข้าไปจะมีความรู้สึกตึงและค่อยๆได้ผล ส่วนใหญ่จะเริ่มออกฤทธิ์ 2-3 วันรวมทั้งจะมีผลสูงสุดในระยะเวลา 2 อาทิตย์ เว้นเสียแต่บางรอบๆเช่น กราม ที่จะใช้เวลานานกว่าส่วนอื่นๆเป็นโดยประมาณ 1-2 เดือนถึงจะมองเห็นความเคลื่อนไหวแจ่มแจ้งที่สุด

หรือ เป็นสารธรรมชาติสารพัดประโยชน์สำหรับเสริมสวย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีนำเข้าทั้งยังจากประเทศเกาหลี,อังกฤษ,เยอรมันและก็อเมริกา มีคุณสมบัติที่สะดุดตาในการช่วยลดการหดตัวของกล้าม ช่วยลดลางเลือนริ้วรอย เพื่อมองอ่อนวัยขึ้น ช่วยเปิดดวงตาให้โตแจ่มใสและก็ชูคิ้วจัดการกับปัญหาขนคิ้วตก หน้าผาก หางตา ใต้ตา บริเวณที่นิยมฉีดโบท๊อกซ์ เป็นต้นว่า หน้าผาก,หว่างขนคิ้ว,หางตาหรือตีนกา,ปีกจมูก,ใต้ตาแก้ม, ข้างล่างของปากรวมทั้งส่วนของลำคอ ยิ่งไปกว่านี้ยัง ลดกรามปรับรูปหน้าเรียว V-Shape,ช่วยชูกระชับหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียว (Nefertiti's Lift) ,บริเวณจั๊กกะแร้เพื่อลดลักษณะการทำงานของต่อม

การฉีดสารที่มีชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกสิน เอ (Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดยฉีดเข้าที่เข้าทางกล้ามบริเวณกราม ส่งผลทำให้มัดกล้ามดำเนินงานลดลงชั่วครั้งชั่วคราว และก็ทำให้ขนาดกล้ามเล็กทำให้บริเวณใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยจะให้ผลที่ดีเยี่ยมในเคสผู้ป่วยมีกล้าม หลัง ฉีดโบท็อก รอบๆกรามเยอะมากๆรวมทั้งสามารถอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ต่อการฉีด 1 ครั้งช่วยลดริ้วรอย โดยฉีดบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้กล้ามขยับได้ลดลง ริ้วรอยบนใบหน้าแล้วก็ค่อยๆต่ำลง ช่วยปรับรูปหน้า ฉีดตรงแนวขากรรไกร กราม เพื่อปรับใบหน้าให้เล็กแล้วก็เรียวขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิว โดยจะฉีดไปที่กล้ามเนื้อและก็ต่อมไขมัน เมื่อฉีดเข้าไปรูขุมขนจะหดเล็กลง ต่อมไขมันลดขนาด ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานมากแค่ไหน ? การฉีดโบท็อกซ์นั้น “ผลสรุปของการฉีดโบท็อกซ์นั้นมิได้อยู่ถาวร” โดยทั่วไปแล้วโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ได้นาน 4-8 เดือน โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น

ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้ แบรนด์ของโบท็อกซ์ที่ฉีด ถ้าหากเลือกฉีดโบหน้าเรียวที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ภายในร่างกายได้ยาวนานกว่า ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ด้วยเหตุนี้กล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ก็เลยสั้นกว่า ซึ่งในส่วนของการฉีดโบหน้าเรียวนั้น เป็นการฉีดกล้ามรอบๆกราม ซึ่งเป็นกล้ามผูกเล็ก ก็จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน แม้กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองด้วยจ้ะการฉีดโบลดฟันกราม หรือการ ฉีดหน้าเรียว (Botox for Masseter Reduction / V-line Procedure / Masseter Hypertrophy) เป็นการนำหัตถการการฉีดโบท็อกซ์มาใช้เพื่อลดขนาดกล้ามบริเวณฟันกราม เพื่อมีรูปหน้าที่เรียวเล็กกว่าเดิม และก็ทำให้กรอบหน้ารวมทั้งสันกรามชัดขึ้นด้วย

ก่อนจะทราบกระบวนการลดฟันกราม ควรจะรู้จักกับโบท็อกซ์ก่อน การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) คือหัตถการอย่างหนึ่ง ที่จะใช้สารที่ชื่อว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียจำพวก Anaerobic ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ฉีดเข้าไปที่รอบๆผิวหนังรวมทั้งกล้ามเนื้อ สารจำพวกนี้จะไปออกฤทธิ์กับระบบประสาทในบริเวณที่ฉีด โบท็อกซ์จะไปรบกวนการตอบสนองของกล้ามต่อสารเคมีที่ส่งมาจากระบบประสาท (Neuromodulator) ทำให้ระบบประสาทไม่สามารถที่จะสั่งงานกล้ามเนื้อให้ดำเนินงานได้ป็นชื่อทางด้านการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน ไทป์เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนประเภทหนึ่งที่สกัดได้จากแบคทีเรียครอสตรเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่ถูกศึกษาและทำการค้นพบโดยหมอชาวอเมริกันว่าสารตัวนี้สามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) เมื่อฉีดเข้าผิวในปริมาณที่เหมาะเจาะ

จะส่งผลให้มัดกล้ามในบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาต ช่วยยั้งไม่ให้กล้ามหดหรือเกร็งตัวตรงเวลาชั่วครั้งคราว เมื่อกล้ามเนื้อเริ่มคลายตัวและทำงานได้ลดน้อยลง ปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่ก็จะดูดีขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยใหม่ๆหลังฉีดโบท็อกซ์ผิวก็จะยิ่งมองสวยกระชับ และก็อ่อนเยาว์มากขึ้นค่ะ าต้องการนวดหน้า อบไอน้ำ ซาวน์น่า โยคะร้อน หรือมีกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องพบกับความร้อน ควรจะทำให้เสร็จก่อนวันที่นัดฉีดโบท็อกซ์ เพราะเหตุว่า 2-4 สัปดาห์ข้างหลังฉีด จะไม่สามารถทำกิจกรรมพวกนี้ได้ เนื่องมาจากความร้อนทำให้โบท็อกซ์สลายหรือเสื่อมฤทธิ์เร็วกว่าปกติ งดเว้นการใช้ยาแล้วก็วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก จัดเตรียมงดยาบางชนิดแล้วก็วิตามินบางอย่างเป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีด เพื่อลดอาการเขียวบอบช้ำ ยกตัวอย่างเช่น

ยาแก้ปวดกรุ๊ป NSAIDs ดังเช่นว่า brufen, ponstan, naproxen, arcoxia, celebrex และอื่นๆ

วิตามินอี, น้ำมันปลา (fish oil), ใบแปะก๊วย หากมียาอื่นๆที่จำเป็นต้องรับประทานเสมอๆ แพทย์ชี้แนะให้ขอความเห็นแพทย์ก่อนว่ายาที่กินอยู่จึงควรหยุดหรือไม่ ดังนี้ ห้ามหยุดยาเอง เพราะเหตุว่าบางทีอาจทำให้เป็นอันตรายจากการขาดยา และก็ยาจำนวนมาก เช่น ยาลดความดัน ยาโรคเบาหวาน ยาลดไขมัน ยาแก้แพ้ ยารักษาสิว ยาจิตเวช ไม่จำเป็นที่ต้องหยุด หลังฉีดทันที ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เพื่อกระจายตัวยาให้ออกฤทธิ์สุดกำลัง ข้างหลังฉีดงดเว้นนอนราบ ตรงเวลาโดยประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองปกป้องการไหลของโบ งดประคบร้อน ทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน หรืออยู่ใกล้บริเวณที่ร้อนมาก เป็นเวลา 1 - 2 อาทิตย์ หลบหลีกกิจกรรมที่นำไปสู่ความร้อนในชั้นผิว ยกตัวอย่างเช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก เดินที่โล่งแจ้งที่แดดร้อนอบอ้าว เป็นต้น

กรณีฉีดรอบๆกราม ข้างหลังฉีดโดยทันทีให้บดหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่าๆกัน โดยสลับซ้ายขวาตรงเวลา 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อที่ฉีดได้ดิบได้ดีเพิ่มขึ้น ข้างหลังฉีดโดยประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามเดิม แม้มีรอยนูนแดงที่ผิว จะหายไปเองภายในช่วงเวลา 1 – 2 ชั่วโมงหลังฉีดกลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกจะช่วยยั้บยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทและก็ทำให้กล้ามรอบๆนั้นหยุดทำงานชั่วครั้งคราว จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าท่าทางและก็รอยพับรอบๆต่างๆเจริญครับผม ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ? ถ้าหากเป็นโบท็อกลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน เห็นผลเต็มที่ใน 14 วัน ส่วนโบท็อกปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลใน 1 เดือน ได้ผลสุดกำลัง 2-3 เดือนครับผม

อ่านบทความเพิ่ม ฉีดโบท็อก อันตรายไหม มีข้อดี ข้อผิดพลาดอย่างไร ? เลื ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ี่ตามมาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ก่อนฉีดโบท็อก ควรที่จะเลือกคลินิกที่น่าไว้วางใจ สำรวจได้ว่าผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข และเข้าไปขอความเห็นกับหมอที่มีประสบการณ์โดยตรงครับผม หมอจะช่วยประเมินบริเวณใบหน้า และแนะนำโบท็อกที่เหมาะสมกับแต่ละเคสได้ก่อนที่จะรู้แนวทางการดูแลตัวเองข้างหลังฉีดโบท็อก มีวิธีการดูแล หรือข้อที่ไม่อนุญาตข้างหลังฉีดโบท็อกอย่างไรบ้าง แพทย์ขออธิบายถึงกลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อก เพื่อรู้เรื่องวิธีทำตัวก่อนฉีด-ข้างหลังฉีดโบท็อก ว่าทำเพื่ออะไร คนเจ็บจะเข้าใจแล้วก็จำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นครับผม

ยี่ห้อของโบท็อกที่ฉีด ถ้าหากเลือกโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้ยาวนานกว่า ด้วยเหตุว่าร่างกายจะทำลายโปรตีนด้ามจับกับโบท็อก โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากยิ่งกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายยิ่งกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อผูกใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามมากมาย ดังนั้นกล้ามก็เลยกลับมาใช้งานได้เร็ว ช่วงเวลาที่โบท็อกออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามผูกเล็ก อย่างเช่น กราม หน้าผาก หางตา ดังนี้ขึ้นกับจำนวนโบท็อกที่ใช้ ซึ่งจะต้องอยู่สำหรับเพื่อการประเมินโดยหมอที่มีประสบการณ์ หลายๆคนจะมีความรู้สึกวิตกกังวลว่าเมื่อโบท็อกสิ้นฤทธิ์จะมีผลให้กล้ามกลับมาใหญ่มากยิ่งกว่าเดิมไหม ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าโบท็อกทำให้กล้ามมัดที่ฉีดไปทำงานลดลง ขนาดกล้ามก็เลยเล็กลง พอหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อก็จะกลับมาทำงานมากขึ้น ขนาดกล้ามจะค่อยๆเพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นกับการใช้แรงงาน ถ้าหากใช้งานมากก็ได้โอกาสสูงที่ผูกกล้ามจะมีขนาดกลับมาเหมือนเดิม