-t — различия между версиями

Материал из ТОГБУ Компьютерный Центр
Перейти к: навигация, поиск
м (-t)
м (-t)
Строка 1: Строка 1:
ดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ<br /><br />สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้<br /><br />1. รู้จักเครื่องมือและเลือกใช้ให้เหมาะสม<br /><br /><br /><br /><br /><br />เครื่องมือสำหรับดูแลสวนหลังบ้านมีหลายชนิด เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่ง จอบและเสียม ถังรดน้ำ เป็นต้น ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่งสำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ จอบและเสียมสำหรับพรวนดิน ถังรดน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น<br /><br />2. รดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ<br /><br />ปริมาณน้ำที่ต้นไม้ต้องการขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ สภาพอากาศ และขนาดของต้นไม้ โดยทั่วไปควรรดน้ำต้นไม้วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น<br /><br />3. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้<br /><br />ปุ๋ยช่วยบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง ควรใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับชนิดของต้นไม้<br /><br />4. ตัดแต่งกิ่งไม้อย่างสม่ำเสมอ<br /><br />การตัดแต่งกิ่งไม้ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างสมดุล ตัดแต่งกิ่งไม้ที่เป็นโรคหรือแห้งตายออก และตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ<br /><br />5. กำจัดวัชพืช<br /><br />วัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากต้นไม้ ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้มือถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า<br /><br />6. ทำความสะอาดสวนหลังบ้าน<br /><br />ทำความสะอาดสวนหลังบ้านเป็นประจำ เก็บกวาดเศษใบไม้และเศษขยะต่างๆ ออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง<br /><br /><br /><br />7. ป้องกันโรคและแมลง<br /><br />โรคและแมลงเป็นศัตรูของต้นไม้ ควรหมั่นสังเกตต้นไม้ หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา<br /><br />8. ตกแต่งสวนหลังบ้าน<br /><br />การตกแต่งสวนหลังบ้านช่วยให้สวนหลังบ้านสวยงามและน่าพักผ่อน สามารถเลือกตกแต่งสวนหลังบ้านได้ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ปูสนามหญ้า ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับนั่งพักผ่อน เป็นต้น<br /><br />การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจและดูแลอย่างสม่ำเสมอ สวนหลังบ้านก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน<br /><br /> [https://www.ruataewada.com/products/hinge-joint/ รั้วตาข่าย] <br /><br /><br /><br />
+
มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานสด ใส่ยำ ใส่น้ำพริก หรือทำเป็นมะม่วงเบาแช่อิ่ม มะม่วงเบามีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของประเทศไทย ปลูกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น<br /><br />การเตรียมพื้นที่ปลูก<br /><br />การเตรียมพื้นที่ปลูกมะม่วงเบา มีดังนี้<br /><br />เลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน<br /><br />ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน<br /><br />ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน<br /><br />ทำร่องหรือหลุมสำหรับปลูกมะม่วงเบา ระยะห่างระหว่างต้น 5-6 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว 6-7 เมตร<br /><br />การเลือกพันธุ์มะม่วงเบา<br /><br />พันธุ์มะม่วงเบาที่นิยมปลูก ได้แก่<br /><br />พันธุ์เบาปราณบุรี<br /><br />พันธุ์เบานครปฐม<br /><br />พันธุ์เบาสุราษฎร์ธานี<br /><br />พันธุ์เบาสงขลา<br /><br />วิธีการปลูกมะม่วงเบา<br /><br />การปลูกมะม่วงเบามี 2 วิธี คือ<br /><br />การปลูกมะม่วงเบาด้วยเมล็ด<br /><br />นำเมล็ดมะม่วงเบาที่แก่จัดมาเพาะในถุงเพาะชำ ใช้เวลาเพาะประมาณ 3-4 เดือน เมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร จึงย้ายปลูกลงแปลง<br /><br />การปลูกมะม่วงเบาด้วยต้นกล้า<br /><br />เลือกต้นกล้ามะม่วงเบาที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน ต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลูกลงแปลงตามระยะห่างที่กำหนด<br /><br />การดูแลรักษามะม่วงเบา<br /><br />การดูแลรักษามะม่วงเบา มีดังนี้<br /><br />การให้น้ำ<br /><br /><br /><br /><br /><br />รดน้ำมะม่วงเบาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน<br /><br />การให้ปุ๋ย<br /><br />ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน<br /><br />การตัดแต่งกิ่ง<br /><br />ตัดแต่งกิ่งมะม่วงเบาปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว<br /><br />การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช<br /><br />หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ<br /><br />การเก็บเกี่ยวมะม่วงเบา<br /><br />มะม่วงเบาจะเริ่มออกดอกในช่วงฤดูหนาว ผลมะม่วงเบาจะสุกในช่วงฤดูร้อน มะม่วงเบาสุกจะมีเปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว ผลมะม่วงเบาจะรับประทานได้สดหรือนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้<br /><br />เคล็ดลับการปลูกมะม่วงเบาให้ได้ผลดี<br /><br />เลือกพันธุ์มะม่วงเบาที่ทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช<br /><br />ใส่ปุ๋ยบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ<br /><br />รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่ารดน้ำมากเกินไป<br /><br />ตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ<br /><br />หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ<br /><br />การปลูกมะม่วงเบาเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ไม่ยาก มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และรับประทานได้หลากหลาย การปลูกมะม่วงเบานอกจากจะได้มะม่วงเบาที่รับประทานสดแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างรายได้อีกด้วย<br /><br /> [https://www.ruataewada.com/products/hinge-joint/ รั้วตาข่าย] <br /><br /><br /><br />

Версия 08:26, 4 декабря 2023

มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานสด ใส่ยำ ใส่น้ำพริก หรือทำเป็นมะม่วงเบาแช่อิ่ม มะม่วงเบามีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของประเทศไทย ปลูกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น

การเตรียมพื้นที่ปลูก

การเตรียมพื้นที่ปลูกมะม่วงเบา มีดังนี้

เลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน

ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน

ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน

ทำร่องหรือหลุมสำหรับปลูกมะม่วงเบา ระยะห่างระหว่างต้น 5-6 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว 6-7 เมตร

การเลือกพันธุ์มะม่วงเบา

พันธุ์มะม่วงเบาที่นิยมปลูก ได้แก่

พันธุ์เบาปราณบุรี

พันธุ์เบานครปฐม

พันธุ์เบาสุราษฎร์ธานี

พันธุ์เบาสงขลา

วิธีการปลูกมะม่วงเบา

การปลูกมะม่วงเบามี 2 วิธี คือ

การปลูกมะม่วงเบาด้วยเมล็ด

นำเมล็ดมะม่วงเบาที่แก่จัดมาเพาะในถุงเพาะชำ ใช้เวลาเพาะประมาณ 3-4 เดือน เมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร จึงย้ายปลูกลงแปลง

การปลูกมะม่วงเบาด้วยต้นกล้า

เลือกต้นกล้ามะม่วงเบาที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน ต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลูกลงแปลงตามระยะห่างที่กำหนด

การดูแลรักษามะม่วงเบา

การดูแลรักษามะม่วงเบา มีดังนี้

การให้น้ำ





รดน้ำมะม่วงเบาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน

การตัดแต่งกิ่ง

ตัดแต่งกิ่งมะม่วงเบาปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว

การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช

หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

การเก็บเกี่ยวมะม่วงเบา

มะม่วงเบาจะเริ่มออกดอกในช่วงฤดูหนาว ผลมะม่วงเบาจะสุกในช่วงฤดูร้อน มะม่วงเบาสุกจะมีเปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว ผลมะม่วงเบาจะรับประทานได้สดหรือนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้

เคล็ดลับการปลูกมะม่วงเบาให้ได้ผลดี

เลือกพันธุ์มะม่วงเบาที่ทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช

ใส่ปุ๋ยบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ

รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่ารดน้ำมากเกินไป

ตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ

หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

การปลูกมะม่วงเบาเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ไม่ยาก มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และรับประทานได้หลากหลาย การปลูกมะม่วงเบานอกจากจะได้มะม่วงเบาที่รับประทานสดแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างรายได้อีกด้วย

รั้วตาข่าย