--c — различия между версиями
м (--c) |
м (--c) |
||
| Строка 1: | Строка 1: | ||
| − | + | ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นยังไง“ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศ” ตามนิยามของข้อกำหนดแพทยสภาเมืองไทย* คือ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง หรือหญิงเป็นชาย รวมทั้งการดูแลรักษาที่นำมาซึ่ง แปลงเพศ ความเคลื่อนไหวของฮอร์โมนเพศอย่างยั่งยืนความหมายที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับบุคคลทั่วไป คือ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์และก็ฟังก์ชั่นแนวทางการทำงานของของลับเดิมไปยังเพศที่ปรารถนา ดังนั้น ศัลยกรรมแปลงเพศชายเป็นหญิง จึงหมายคือการผ่าตัดเพื่อสร้างอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้<br /><br />การสร้างอวัยวะเพศภายนอกแบบเพศหญิง (vulva)การผลิตช่องคลอดหรือช่องสืบพันธุ์ (neovagina)ทั่วไปการทำศัลยกรรมเปลี่ยนเพศชอบปฏิบัติเป็นขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการผ่านเพศ ซึ่งหลักการผ่านเพศประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆเริ่มจากระดับที่น้อยไปพบมาก อาทิเช่น การใช้ชีวิตในแบบเพศตรงข้าม การใช้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ และก็การทำศัลยกรรมร่างกายส่วนอื่นที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า เป็นต้น<br /><br />ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นการผ่าตัดในจุดซุกซ่อน มีจุดหมายเพื่อเติมเต็มสิ่งที่จำเป็นทางด้านจิตใจเป็นหลัก และเนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความซับซ้อน เมื่อกระทำไปแล้วจะไม่อาจจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก โดยเหตุนั้นคนที่จะเข้ารับการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องผ่านเกณฑ์ประเมินของสัมพันธ์คนผ่านเพศนานาชาติ หรือ World Professional Association for Transgender Health (WPATH)** เพื่อแน่ใจว่าเมื่อผ่าตัดไปแล้วจะสามารถใช้ชีวิตในเพศที่อยากได้ และลดจังหวะที่จะมีการ “ตกลงใจบกพร่อง” ในการเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ (regression after sex reassignment surgery)คนที่จะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ จำเป็นต้องผ่านการประเมินตามข้อกำหนดของ The World Professional Association for Transgender Health (WPATH) recommendations version 7 (Coleman, et al., 2011) ก่อนเพียงแค่นั้น<br /><br />ผลกระทบจากการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ที่ผู้รับการผ่าตัดมักกังวลใจเป็นเรื่องของความสวยงามรวมทั้งการรับความรู้สึก ซึ่งผลที่ได้ขึ้นอยู่กับหลายเหตุ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถให้คำปรึกษา แปลงเพศ แล้วก็เลือกชนิดของการผ่าตัดให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามสิ่งที่จำเป็น และมีโอกาสเกิดผลใกล้กันน้อยที่สุด เดี๋ยวนี้เพศช่องทางมีความมากมายรวมทั้งเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น เวลาเดียวกันการผ่าตัดแปลงเพศก็ได้รับความชื่นชอบและทำกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ในทางการแพทย์เองก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดตลอดมา เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจและลดผลกระทบจากการผ่าตัดให้น้อยที่สุด<br /><br />การผ่าตัดแปลงเพศ จากชายเป็นหญิง การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง (Gender Affirmation Surgery - Male to Female) มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงอวัยวะสืบพันธุ์จากชายให้ดูเหมือนอวัยวะเพศหญิงอีกทั้งในด้านรูปลักษณ์ภายนอก ความรู้สึก รวมทั้งการใช้แรงงาน โดยใช้ส่วนต่างๆขององคชาตเดิมเพื่อสร้างช่องคลอดใหม่ที่สามารถรับทราบถึงความรู้สึกและก็ใช้งานเป็นต่อเสมือนว่าเป็นเพศเมีย ถ้าหากร่างกายคุณเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง คิดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอีกต่อไป วันนี้คุณสามารถเปลี่ยนเพศเป็นอย่างที่จิตใจต้องการได้ด้วย “การผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง” โดยแนวทางการผ่าตัดที่นำสมัยรวมทั้งไม่มีอันตราย สามารถสร้างอวัยวะเพศหญิงให้ได้ใกล้เคียงธรรมชาติ สามารถใช้งานได้จริง ร่วมเพศได้ ช่องคลอดมีความลึก กว้าง เป็นธรรมชาติตามสรีระของแต่ละคน รวมถึงการรับความต้องการทางเพศที่ไม่ด้อยไปกว่าเดิมอีกด้วย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะขอความเห็นศัลยแพทย์ เพื่อเรียนรู้คุณลักษณะ แนวทางต่างๆการเตรียมพร้อม ขั้นตอน การดูแลตนเอง รวมถึงผลข้างหลังเปลี่ยนเพศ เนื่องจากการได้รับรู้เนื้อหาอย่างรอบด้าน จะเป็นการช่วยในการตกลงใจทำและคลายความกังวลใจไปได้<br /><br /><br /><br />ในทางการแพทย์จัดให้ “การเปลี่ยนเพศ” เป็นขั้นตอนการรักษาผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิดอย่างรุนแรง หรือ ที่เรียกว่า “Gender dysphoria (GD)”<br /><br />ลักษณะสำคัญของผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิด เช่น ต้องการเป็นเพศตรงข้ามไปชั่วชีวิต มีบุคลิกภาพ แปลงเพศ ตรงกันข้ามกับเพศกำเนิด รู้สึกไม่ชอบของลับ และก็รูปลักษณ์แสดงเพศของตนเอง ไม่มีความรู้สึกถูกใจเพศเดียวกันแม้พึงพอใจแปลงเพศจริงๆควรเริ่มจากการเจอจิตแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินสภาพจิตใจเสียก่อน จิตแพทย์จะทำการตรวจประเมินแล้วก็พินิจพิจารณาระดับความรุนแรงของอาการ GD เพื่อแนะแนวทางรักษาตามอาการการแปลงเพศมีหลายวิธี ดังเช่นว่า ทดลองใช้ชีวิตแบบเพศตรงกันข้ามในแบบที่อยาก การดูแลและรักษาด้วยฮอร์โมนเพศตรงข้าม รวมทั้งการผ่าตัดแปลงเพศ<br /><br />การผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง เป็นยังไง<br /><br />การเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง หรือการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง แบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญๆ [https://looksclinic.net/%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2/ คลินิก แปลงเพศ] ดังเช่นว่า การผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายข้างนอกให้มีรูปร่างราวกับอวัยวะเพศหญิง การผ่าตัดอวัยวะแสดงเพศอันอื่นให้เหมือนหญิงเยอะที่สุด อย่างเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนเสียง กรอลูกกระเดือก หรือการผ่าตัดเสริมหน้าอกการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงสามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักเริ่มจากการผ่าตัดอวัยวะแสดงเพศให้เหมือนสตรีก่อน อย่างเช่น ผ่าตัดเสริมทรวงอกด้วยถุงเต้านมเทียม แล้วตามด้วยการผ่าตัดตกแต่งอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก รวมทั้งตัดกระดูกกล่องเสียงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิงนั้น สามารถทำเป็นในคนที่แก่ 20 ปีขึ้นไป หรือในกรณีที่แก่ 18-20 ปี จึงควรให้ผู้ดูแลเซ็นเอกสารยอมเข้ารับการผ่าตัด<br /><br />เปลี่ยนแปลงชายให้เป็นหญิง (Transwoman)<br /><br />ความเคลื่อนไหวผู้ชายให้เป็นเพศหญิงจะใช้กรรมวิธีผ่าตัดแปลงชายเป็นหญิงเพื่อแปลงอวัยวะสืบพันธุ์ชายให้มีลักษณะเหมือนอวัยวะเพศหญิง ตั้งแต่รูปลักษณ์ ทั้งยังแคมใหญ่ แคมเล็ก รูเปิดท่อเยี่ยว ความรู้สึกคือการผลิตคลิตอริส ไปจนถึงช่องคลอดซึ่งสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งในตอนนี้มีหลายเทคนิคที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น<br /><br />เทคนิคใช้ผิวหนังองคชาตม้วนกลับต่อกราฟ (Penile Skin Inversion with/without Scrotal Skin Graft) โดยนำผิวหนังขององคชาตเดิมใส่กลับเข้าไปเพื่อสร้างช่องคลอดใหม่ โดยหากไม่พอ อาจต่อด้วยหนังหุ้มห่ออัณฑะนำมาต่อเป็นแผนภูมิ (Scrotal Skin Graft) รูปลักษณ์ภายนอกราวกับอวัยวะเพศหญิง มีเส้นประสาทรับความรู้สึกที่คลิตอริสแคมในรอบท่อเยี่ยวนับเป็นแนวทางมาตรฐานที่ได้รับความนิยมสำหรับในการผ่าตัดเปลี่ยนเพศหนแรกไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดท้องแต่ว่าต้องมีผิวหนังอวัยวะสืบพันธุ์พอเพียง<br /><br />เปลี่ยนเพศ (Sex Reassignment) เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศภาวะข้างนอกให้ตรงกับภาวะจิตใจของคนไข้ที่ปรารถนาเข้ารับการผ่าตัด โดยมีทั้งยังการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง รวมทั้งจากหญิงเป็นชาย<br /><br />แม้วิทยาการในปัจจุบันจะรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น แม้กระนั้นการผ่าตัดแปลงเพศก็ยังคงเป็นกระบวนการที่มีความสลับซับซ้อน คลินิก แปลงเพศ ผู้ป่วยไม่สามารถเปลี่ยนสภาพร่างกายไปเป็นเพศที่ตรงข้ามกับเพศกำเนิดของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ แล้วก็การผ่าตัดอาจมีผลต่อสภาพจิตใจ การทำงาน การเข้าสังคม แล้วก็การใช้ชีวิตไปตลอดชีวิตของคนไข้ การเปลี่ยนเพศก็เลยเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ผู้เจ็บป่วยควรตกลงใจให้ละเอียดภายใต้ดุลยพินิจของหมอ<br /><br /><br /><br />ในคนที่มีความผิดธรรมดาด้านจิตใจซึ่งทำให้มีความรู้สึกมีความขัดแย้งของการรับทราบเพศที่ไม่สอดคล้องกับเพศที่แท้จริง ทางการแพทย์เรียกว่าgender dysphoriaหรือgender identity disorderเป็นความผิดปกติที่พบได้ค่อนข้างจะบ่อยในสังคมปัจจุบัน ด้วยเหตุว่าในปัจจุบันสังคมสารภาพคนกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆทำให้เขากล้ามารับการดูแลและรักษาแปลงเพศ ถูกกฎหมาย เพิ่มมากขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสุขสบาย<br /><br />ก่อนผ่าตัดก่อนที่จะกระทำการผ่าตัดหมอควรต้องทำวิเคราะห์ให้ได้ก่อนว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ รวมทั้งสามารถจะมำการผ่าตัดได้หรือเปล่าโดยมีกระบวนการพินิจพิเคราะห์ดังนี้<br /><br />คนเจ็บจำเป็นต้องดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมในเพศที่ตรงกันข้ามกับเพศจริงทางร่างกายตลอดเวลาแล้วก็บรรลุเป้าหมายสำหรับในการดำเนินชีวิตตรงเวลาอย่างต่ำ12เดือนคนไข้จะต้องได้รับการตรวจและก็ประเมินพฤติกรรมโดยจิตแพทย์อย่างต่ำ2คนรวมทั้งหนึ่งในสองคนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนเพื่อเตียมสภาพร่างกายให้อยู่ในเพศตรงข้ามเสียก่อนก่อนผ่าตัดเปลี่ยนเพศจะต้องผ่าตัดส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ซะก่อน<br /><br />การผ่าตัดเปลี่ยนเพศในประเทศไทยโด่งดังแล้วก็ได้รับการยินยอมรับจากต่างประเทศมายาวนานหลายทศวรรษ ปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งยังจากคนไทยแล้วก็คนต่างชาติ แปลงเพศ ถูกกฎหมาย ในระหว่างที่เทคนิคการผ่าตัดเพื่อการเปลี่ยนเพศอย่างสมบูรณ์แบบก็มีการพัฒนา ผ่าตัดแปลงเพศ โดยตลอดเช่นกัน ล่าสุด ศัลยแพทย์โรงหมอจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้คิดค้นนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงแบบใหม่เป็นแห่งแรกของโลก ด้วยเทคนิคการนำเยื่อบุช่องท้องแบบติดขั้วเส้นเลือดมาใช้เพื่อสำหรับการสร้างเยื่อบุช่องคลอดเพื่อความยุติธรรมชาติ รวมทั้งสามารถใช้งานได้ดีเหมือนช่องคลอดของผู้หญิง<br /><br />การเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศที่ การเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดแปลงเพศ เริ่มด้วยวิธีซักเรื่องราว สิ่งที่ต้องการสำหรับเพื่อการเป็นเพศตรงข้าม และขั้นตอนสำหรับเพื่อการข้ามเพศที่ได้กระทำมาแล้ว แล้วหลังจากนั้นหมอจะกระทำการตรวจร่างกายและประเมินความพร้อมเพรียงสำหรับในการผ่าตัด ตามเกณฑ์ประเมินดังต่อไปนี้<br /><br />แก่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ (ในเรื่องที่อายุตั้งแต่ 18 ปี แต่ว่ายังไม่ถึง 20 ปี สามารถผ่าตัดได้แต่ต้องมีผู้ดูแลร่วมเซ็นเซ็นชื่อด้วย)ได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นคนผ่านเพศ (gender dysphoria)*** รวมทั้งมีใบรับรองจากจิตแพทย์จำนวน 2 ใบ (ในกรณีเป็นการผ่าตัดปรับปรุง ไม่จำเป็นต้องใช้ใบสุทธิจากจิตแพทย์)ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคทางจิตเวช ที่อาจมีอันตรายต่อการผ่าตัดใหญ่ หรือการดมยาสลบผ่านการใช้ฮอร์โมนข้ามเพศ อย่างน้อย 1 ปีผ่านการใช้ชีวิตเป็นเพศตรงข้าม ขั้นต่ำ 1 ปี<br /><br />การผ่าตัดโดยทั่วไปประกอบด้วย<br /><br />การตัดอัณฑะ (Orchidectomy) การสร้างช่องคลอด (Vaginoplasty) การตกแต่งอวัยวะข้างนอก (Labiaplasty) การผ่าตัดนี้มีการปรับปรุงแนวทางใหม่ๆขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ผ่าตัดแปลงเพศ ดังเช่น สร้างจุดรับความรู้สึก (Sensate Clitoroplasty) การผลิตแคมเล็ก (Labia Minora reconstruction) โดยใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะมาสร้างเป็นแคม การผลิตช่องคลอดด้วยลำไส้ (Intestinal Vaginoplasty) การผลิตช่องคลอดด้วยเยื่อบุช่องท้อง (Endoscopic Peritoneal Flap Vaginoplasty) ทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงในปัจจุบัน มักจะสำเร็จลัพธ์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกมิติและก็น่าพึงพอใจ<br /><br />แนวทางการใช้ผิวหนังองคชาตม้วนกลับ (แนวทางมาตรฐาน)<br /><br />เคล็ดวิธีนี้เป็นการนำเอาผิวหนังของถุงอัณฑะ (scrotal skin graft) ใส่กลับเข้าไปเพื่อสร้างเป็นช่องคลอดใหม่ ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกตกแต่งให้เสมือนอวัยวะเพศหญิงทุกประการ โดยเก็บเส้นประสาทรับความรู้สึกไว้ที่คลิตอริส แคมเล็ก แล้วก็รอบท่อฉี่ แปลงเพศที่ไหนดี วิธีการแบบนี้ผ่าตัดเฉพาะบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพียงแค่นั้น ไม่ต้องผ่าตัดช่องท้อง ใช้ระยะเวลาสำหรับการผ่าตัดโดยประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่เข้ารับการเปลี่ยนเพศเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีผิวหนังของลับเพียงพอเมื่อกล่าวถึง “การเปลี่ยนเพศ” ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคงจะระลึกถึงการผ่าตัดศัลยกรรมต้นแบบหนึ่งที่สามารถสร้างของลับรวมทั้งรูปลักษณ์แสดงเพศขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งการแปลงเพศจากเพศชายไปเป็นหญิง รวมทั้งการเปลี่ยนเพศจากหญิงไปเป็นผู้ชาย<br /><br />อย่างไรก็แล้วแต่ โดยความเป็นจริงแล้วการแปลงเพศไม่ใช่สิ่งที่ใครๆก็สามารถทำได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต รวมทั้งหากภายหลังคิดเปลี่ยนความคิดก็ยากที่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้คืนกลับได้ดังเดิมด้วยเหตุดังกล่าวการเปลี่ยนเพศจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรึกตรองปัจจัยหลายประเภทประกอบกัน อีกทั้งสิ่งที่ต้องการของคนๆนั้น และการพินิจตามสมควรของจิตแพทย์ แล้วก็ศัลยแพทย์ จะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของการแปลงเพศว่าคืออะไร คนไหนกันบ้างที่สามารถเปลี่ยนเพศได้ การแปลงเพศมีกี่แบบ กี่วิธี อะไรบ้าง<br /><br />โดยผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง ต้องผ่านการตระเตรียมเบื้องต้นก่อน ยกตัวอย่างเช่นเทคฮอร์โมน รวมทั้งดำเนินชีวิตเป็นหญิง แปลงเพศที่ไหนดี 24 ชั่วโมงต่อวัน ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 1 ปีเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรับการคาดคะเนภาวะจิตใจ ขั้นต่ำ 2 ท่าน โดยใบสุทธิควรต้องมอายุยงไม่เกิน 6 เดือน ก่อนวันผ่าตัดตรวจสุขภาพร่างกายทั่วไป จึงควรไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็นข้อที่ไม่อนุญาตสำหรับเพื่อการสูดดมยาสลบ หรือการผ่าตัด<br /><br />จัดแจงร่างกายทั่วๆไป อย่างเช่น งดเว้นรับประทานยาที่ส่งผลให้เลือดออกง่ายก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ หรืองดเว้นสูบบุหรี่แล้วก็ดื่มแอลกอฮอล์ 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดบริเวณของอัญฑะด้านล่าง ตำแหน่งที่อยู่เหนือทวารหนัก เป็นส่วนที่จะประยุกต์ใช้เป็นผนังด้านล่างของช่องคลอดข้างหลังแปลงเพศ แม้กระนั้นส่วนนี้เป็นส่วนที่มีขน ถ้าเกิดอยู่ในมดลูกจะทำความสะอาดได้ยาก และไม่เป็นธรรมชาติ จำเป็นที่จะต้องกำจัดขนโดยใช้เลเซอร์ก่อนการเปลี่ยนเพศ ราวๆ 3-4 ครั้ง<br /><br />ต่อไป หมอจะทำตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดรวมทั้งเอ็กซเรย์ ซึ่งถ้าเกิดพบว่ามีความผิดธรรมดาหรือมีโรคประจำตัว จะส่งขอความเห็น ผ่าตัดแปลงเพศ หมอเฉพาะทางเพื่อร่วมประเมินด้วย<br /><br />ในกรณีที่คนเจ็บรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่ ซึ่งอาจมีฤทธิ์ทำให้เลือดออกง่าย เป็นต้นว่า ยาแอสไพริน (aspirin) โคลพิโดเกรล (clopidogrel) สมุนไพร อาทิเช่น ถั่งเช่า แปะก๊วย โสม กระเทียม น้ำมันตับปลา คอลลาเจน แล้วก็วิตามินอี จำเป็นจะต้องหยุดรับประทานก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เสียเลือดมากมายระหว่างการผ่าตัด<br /><br />ควรหยุดยาฮอร์โมนผ่านเพศทุกจำพวกก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อคุ้มครองปกป้องภาวการณ์ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดโลหิตดำระหว่างการผ่าตัด (deep venous thrombosis)<br /><br />คนป่วยที่ดูดบุหรี่หรือใช้สินค้าที่มีส่วนประกอบนิโคติน ดังเช่น ยาสูบกระแสไฟฟ้า หมากฝรั่งนิโคติน หรือแผ่นแปะสำหรับเลิกบุหรี่ จำเป็นต้องหยุดใช้ ก่อนรวมทั้งหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 เดือน เพราะว่านิโคตินจะนำมาซึ่งการทำให้แผลผ่าตัดหายช้าลง สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ควรงดดื่ม 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด แล้วก็นอกนั้นในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด ควรกินอาหารอ่อนที่มีกากน้อย เพื่อจัดเตรียมลำไส้ให้สะอาด รวมทั้งรักษาสุขลักษณะอวัยวะเพศ ด้วยการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำกินหรือสบู่สำหรับจุดซ่อนเร้นอำพรางความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแปลงเพศ<br /><br />การผ่าตัดทุกหมวดหมู่มีการเสี่ยง แต่ไม่ใช่ว่าความเสี่ยงพวกนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคน หมอจะให้คำปรึกษาแล้วก็ประเมินการเสี่ยง ให้โอกาสสำหรับเพื่อการซักถามข้อสงสัย หลังจากนั้นก็เลยด้วยกันตัดสินใจในด้านการผ่าตัด<br /><br />ผลกระทบจากการผ่าตัดแปลงเพศ ที่ผู้รับการผ่าตัดมักหนักใจเป็นเรื่องของความงดงามรวมทั้งการรับความรู้สึก ซึ่งผลสรุปที่ได้ขึ้นกับหลายเหตุ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถให้คำปรึกษา และก็เลือกประเภทของการผ่าตัดให้สำเร็จลัพธ์ที่ตรงตามสิ่งที่จำเป็น รวมทั้งได้โอกาสเป็นผลใกล้กันต่ำที่สุด<br /><br />ในเรื่องของรอยแผลเป็น หากว่าไม่มีเรื่องราวรอยแผลจำพวกคีลอยด์มาก่อน ชอบได้รับผลสรุปที่เรียบเนียน หลบซ่อนในตำแหน่งที่เหมาะสม<br /><br />ความเสี่ยงอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ภาวะแทรกซ้อนสำหรับเพื่อการหายของแผล (Wound complications) อาการชา (Numbness) หรือการขาดเลือดมาเลี้ยง (Skin Necrosis) ซึ่งพบมากในคนที่ชอบการสูบบุหรี่ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นโลหิต อาทิเช่น โรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ แต่ว่าแม้ควบคุมอาการได้ดีก็ไม่ใช่ข้อบังคับในการผ่าตัด แนวทางการต่อลำไส้<br /><br />เหมาะสมกับผู้ที่อยากปรับแก้ในเรื่องที่เปลี่ยนเพศแล้วช่องคลอดตีบตัน หรือในคนที่ปรารถนาช่องคลอดที่มีความลึกมาก วิธีแบบนี้จะต้องทำผ่าตัดช่องท้อง โดยนำลำไส้ใหญ่เล็กน้อย โดยประมาณ 7-8 นิ้ว มาสร้างเป็นผนังช่องคลอด ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกจะราวแบบต่อกราฟทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งใช้ระยะเวลาสำหรับเพื่อการผ่าตัดราว 6 – 7 ชั่วโมงการแปลงเพศเป็นอย่างไร?<br /><br />ในทางการแพทย์จัดให้ “การเปลี่ยนเพศ” เป็นแนวทางการรักษาผู้ที่ปราศจากความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิดอย่างหนัก หรือ ที่เรียกว่า “Gender dysphoria (GD)”<br /><br />กลุ่มคนเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากับความรู้สึกว่า ราวกับถูกขังให้อยู่ในร่างกายที่ไม่ตรงตามเพศที่แท้จริงของตน ยกตัวอย่างเช่น เป็นผู้ชายแต่กลับจะต้องมาอยู่ในร่างสตรี เป็นสตรีแต่จำเป็นต้องมาอยู่ในร่างผู้ชาย<br /><br />สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้พวกเขาต้องดำเนินชีวิตด้วยความตึงเครียด ความลำบากใจ จนเจ็บปวดทรมาน บ้างก็เพียรพยายามคิดหาทางแก้ปัญหาเท่าที่จะทำเป็น เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตถัดไปได้อย่างสุขสบาย<br /><br />ผู้ใดกันที่เข้าเกณฑ์เปลี่ยนเพศได้บ้าง?<br /><br />ดอกเตอร์แฮปรี่ เบนจามิน (Harry Benjamin) หมอชาวเยอรมันซึ่งได้รับเชิดชูเป็น “พ่อแห่งการเปลี่ยนเพศ” ได้กำหนดลักษณะสำคัญของคนที่ปราศจากความสุขกับสรีระทางเพศแต่กำเนิด หรือ Gender dysphoria (GD) ไว้ดังนี้<br /><br />ปรารถนาเป็นเพศตรงกันข้ามไปตลอดชีพ ได้แก่ เกิดมาในร่างเพศหญิง แต่ต้องการเป็นผู้ชาย<br /><br />มีบุคลิกภาพด้านนอกที่ตรงกันข้ามกับเพศทางพันธุกรรม และก็ชอบแต่งตัวเป็นเพศตรงกันข้าม อย่างเช่น เกิดมาในร่างเพศชาย แม้กระนั้นมีลักษณะนุ่มนวลคล้ายสตรี รวมทั้งชอบแต่งตัวเป็นเพศเมีย<br /><br />มีความรู้สึกเกลียดอวัยวะสืบพันธุ์ และก็รูปลักษณ์แสดงเพศของตนเอง เริ่มจากการพยายามปกปิดอวัยวะพวกนั้นด้วยแนวทางต่างๆได้แก่ ใช้ผ้ารัด ไปจนถึงการพยายามกำจัดอวัยวะพวกนั้นออกไปจากร่างกาย<br /><br />ไม่มีความรู้สึกชอบเพศเดียวกันการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง มีกี่วิธี?<br /><br />เมื่อเอ่ยถึงการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง ส่วนใหญ่จะกำหนดไปที่การผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะสืบพันธุ์ชายให้มีรูปร่างเสมือนอวัยวะเพศหญิง โดยภายหลังที่ผ่านการตระเตรียมพื้นฐานแล้ว หมอจะนัดหมายวันและเวลาสำหรับในการเข้ารับการผ่าตัด โดยมีขั้นตอนทั่วๆไปดังต่อไปนี้<br /><br />ระงับความรู้สึกด้วยแนวทางสูดดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์<br /><br />สร้างช่องคลอดเทียม โดยการกรีดผิวหนังระหว่างถุงอัณฑะและก็รูทวารหนัก แล้วเลาะโพรงเข้าไปจนกระทั่งใกล้กับเยื่อบุช่องท้อง ความลึกและก็ความกว้างของช่องคลอดเทียมจะต่างๆนาๆตามสรีระของแต่ละคน โดยทั่วไปในชาวเอเชียสามารถสร้างช่องคลอดได้ลึกประมาณ 5-6 นิ้ว<br /><br />ตัดแกนองคชาตออก และก็เก็บเส้นประสาทรับความปรารถนาทางเพศ เพื่อจัดแจงทำปุ่มรับความปรารถนาทางเพศ หรือที่เรียกว่า "คลิตอริส (Clitoris)"<br /><br />ตัดท่อฉี่ผู้ชายให้สั้นลง แล้วตกแต่งให้สามารถปัสสาวะพุ่งลงเหมือนผู้หญิง<br /><br />เลาะเอาอัณฑะออก เก็บผิวหนังที่ห่อหุ้มไว้ โดยผิวหนังของอัณฑะรวมทั้งองคชาตจะถูกดันเข้าไปในช่องคลอดที่เลาะไว้เพื่อสร้างเป็นผนังช่องคลอด หากผิวหนังน้อยเกินไป สามารถเอาผิวหนังจากรอบๆขา หรือลำไส้ใหญ่ มาเสริมได้<br /><br /><br /><br /><br /><br />ตกแต่งบริเวณด้านนอก ดังเช่นว่า แคมนอก (Major Labia) แคมเล็ก (Minor Labia) ท่อเยี่ยว และปุ่มรับความสุขทางเพศ ให้มีความงดงามราวกับอวัยวะเพศหญิง<br /><br />หมอจะใส่ผ้าพันแผลเข้าไปในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้โพรงตีบแคบ โดยแผลผ่าตัดจะหายข้างใน 7-14 วัน แล้วก็บางทีอาจจะจะต้องนอนพักในโรงหมอโดยประมาณ 7 วัน<br /><br />ในกระบวนการสร้างฝาผนังช่องคลอดเทียมนั้น ยังสามารถแบ่งเป็น 2 แนวทางหลักๆเช่น การบุด้วยเนื้อเยื่อชนิดไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ รวมทั้งบุด้วยเยื่อประเภทมีเยื่อเมือกธรรมชาติ ซึ่งมีจุดเด่น-ข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน<br /><br />โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิงจึงควรหารือกับแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อเลือกเคล็ดวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง มีเนื้อหาดังนี้ วิธีการต่อไส้ (Rectosigmoid Vaginoplasty) เป็นแนวทางที่นำลำไส้ใหญ่มาสร้างเป็นผนังช่องคลอดซึ่งใช้สำไส้ใหญ่โดยประมาณ 7 – 8 นิ้วโดยใช้ไส้ในส่วนที่เรียกว่า Sigmoid แล้วก็ Upper Rectum เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์น้อยเกินไปที่จะนำไปทำเยื่อบุช่องคลอด คนที่เคยผ่าแปลงเพศแล้วช่องคลอดตีบตัน ผู้ที่ต้องการช่องคลอดลึกมาก ช่วยตกแต่งช่องคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br /><br />จุดแข็ง:<br /><br />ผิวด้านในช่องคลอดมีลักษณะเป็นเยื่อบุ ใกล้เคียงของจริง ลดโอกาสแคบภาวะแทรกซ้อนต่ำไม่จำเป็นต้องใช้เจลหล่อลื่นในการมีเซ็กส์ เพราะว่าเยื่อผลิตมูกได้ตามธรรมชาติการขยายช่องคลอดทำเพียงแค่รอบๆทางเข้าช่องคลอด ซึ่งจะทำได้ง่ายกว่าแบบองคชาตม้วนกลับแล้วก็แบบเยื่อบุช่องท้องคนที่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนเพศได้<br /><br />ผู้ที่สามารถเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศได้จะต้องได้รับการอนุมัติหรือเห็นสมควรจากจิตแพทย์แล้วว่าเป็นคนที่มีภาวการณ์ความรู้สึกว่าไม่พึงพอใจในเพศของตน (Gender Dysphoria หรือในอดีตกาลใช้คำว่า Gender Identity Disorder) ซึ่งเป็นภาวะที่คนไข้เกิดความทุกข์ใจจากเพศสภาพในปัจจุบันของตัวเอง รวมทั้งมีความรู้สึกต้องการเป็นคนข้ามเพศ<br /><br />แพทยที่ประชุมประเทศไทยบอกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมศัลยกรรม-เรียนรู้ความเสี่ยเปลี่ยนเพศต้องกระทำแก่ผู้ที่มีข้อบ่งชี้เพียงแค่นั้นแล้วก็จำเป็นต้องกระทำตามข้อกำหนดแพทยสภาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ประชากรที่มีความมุ่งหมายผ่าตัดเปลี่ยนเพศ โดยผู้เข้ารับการเปลี่ยนเพศจะต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หากแก่ตั้งแต่ 18 ปี แต่ยังไม่ถึง 20 ปี จำต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ถ้าละเมิดจะมีความผิดตามกฎหมาย<br /><br />ส่วนเด็กรวมทั้งวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 18 ปี ที่เจอปัญหาสภาวะความรู้สึกไม่พึงพอใจในเพศของตัวเอง ควรจะหาทางออกมาจากความทุกข์ใจภายใต้การดูแล ความเข้าอกเข้าใจ การให้กำลังใจจากครอบครัวและก็บุคคลใกล้ชิด การให้คำปรึกษาจากพ่อแม่ผู้ดูแล หรือเข้ารับการบำบัดภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังเช่นว่า การบำบัดแบบครอบครัว การบำบัดเชิงจิตวิทยารายตัว หรือการรับฮอร์โมนบำบัดรักษาอย่างเหมาะสมภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์<br /><br /> | |
Версия 19:46, 9 октября 2023
ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นยังไง“ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศ” ตามนิยามของข้อกำหนดแพทยสภาเมืองไทย* คือ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิง หรือหญิงเป็นชาย รวมทั้งการดูแลรักษาที่นำมาซึ่ง แปลงเพศ ความเคลื่อนไหวของฮอร์โมนเพศอย่างยั่งยืนความหมายที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับบุคคลทั่วไป คือ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์และก็ฟังก์ชั่นแนวทางการทำงานของของลับเดิมไปยังเพศที่ปรารถนา ดังนั้น ศัลยกรรมแปลงเพศชายเป็นหญิง จึงหมายคือการผ่าตัดเพื่อสร้างอวัยวะเพศหญิง ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การสร้างอวัยวะเพศภายนอกแบบเพศหญิง (vulva)การผลิตช่องคลอดหรือช่องสืบพันธุ์ (neovagina)ทั่วไปการทำศัลยกรรมเปลี่ยนเพศชอบปฏิบัติเป็นขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการผ่านเพศ ซึ่งหลักการผ่านเพศประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆเริ่มจากระดับที่น้อยไปพบมาก อาทิเช่น การใช้ชีวิตในแบบเพศตรงข้าม การใช้ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ และก็การทำศัลยกรรมร่างกายส่วนอื่นที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า เป็นต้น
ศัลยกรรมเปลี่ยนเพศเป็นการผ่าตัดในจุดซุกซ่อน มีจุดหมายเพื่อเติมเต็มสิ่งที่จำเป็นทางด้านจิตใจเป็นหลัก และเนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความซับซ้อน เมื่อกระทำไปแล้วจะไม่อาจจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก โดยเหตุนั้นคนที่จะเข้ารับการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องผ่านเกณฑ์ประเมินของสัมพันธ์คนผ่านเพศนานาชาติ หรือ World Professional Association for Transgender Health (WPATH)** เพื่อแน่ใจว่าเมื่อผ่าตัดไปแล้วจะสามารถใช้ชีวิตในเพศที่อยากได้ และลดจังหวะที่จะมีการ “ตกลงใจบกพร่อง” ในการเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ (regression after sex reassignment surgery)คนที่จะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ จำเป็นต้องผ่านการประเมินตามข้อกำหนดของ The World Professional Association for Transgender Health (WPATH) recommendations version 7 (Coleman, et al., 2011) ก่อนเพียงแค่นั้น
ผลกระทบจากการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ที่ผู้รับการผ่าตัดมักกังวลใจเป็นเรื่องของความสวยงามรวมทั้งการรับความรู้สึก ซึ่งผลที่ได้ขึ้นอยู่กับหลายเหตุ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถให้คำปรึกษา แปลงเพศ แล้วก็เลือกชนิดของการผ่าตัดให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามสิ่งที่จำเป็น และมีโอกาสเกิดผลใกล้กันน้อยที่สุด เดี๋ยวนี้เพศช่องทางมีความมากมายรวมทั้งเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น เวลาเดียวกันการผ่าตัดแปลงเพศก็ได้รับความชื่นชอบและทำกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ในทางการแพทย์เองก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดตลอดมา เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจและลดผลกระทบจากการผ่าตัดให้น้อยที่สุด
การผ่าตัดแปลงเพศ จากชายเป็นหญิง การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง (Gender Affirmation Surgery - Male to Female) มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงอวัยวะสืบพันธุ์จากชายให้ดูเหมือนอวัยวะเพศหญิงอีกทั้งในด้านรูปลักษณ์ภายนอก ความรู้สึก รวมทั้งการใช้แรงงาน โดยใช้ส่วนต่างๆขององคชาตเดิมเพื่อสร้างช่องคลอดใหม่ที่สามารถรับทราบถึงความรู้สึกและก็ใช้งานเป็นต่อเสมือนว่าเป็นเพศเมีย ถ้าหากร่างกายคุณเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง คิดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการอีกต่อไป วันนี้คุณสามารถเปลี่ยนเพศเป็นอย่างที่จิตใจต้องการได้ด้วย “การผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง” โดยแนวทางการผ่าตัดที่นำสมัยรวมทั้งไม่มีอันตราย สามารถสร้างอวัยวะเพศหญิงให้ได้ใกล้เคียงธรรมชาติ สามารถใช้งานได้จริง ร่วมเพศได้ ช่องคลอดมีความลึก กว้าง เป็นธรรมชาติตามสรีระของแต่ละคน รวมถึงการรับความต้องการทางเพศที่ไม่ด้อยไปกว่าเดิมอีกด้วย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะขอความเห็นศัลยแพทย์ เพื่อเรียนรู้คุณลักษณะ แนวทางต่างๆการเตรียมพร้อม ขั้นตอน การดูแลตนเอง รวมถึงผลข้างหลังเปลี่ยนเพศ เนื่องจากการได้รับรู้เนื้อหาอย่างรอบด้าน จะเป็นการช่วยในการตกลงใจทำและคลายความกังวลใจไปได้
ในทางการแพทย์จัดให้ “การเปลี่ยนเพศ” เป็นขั้นตอนการรักษาผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิดอย่างรุนแรง หรือ ที่เรียกว่า “Gender dysphoria (GD)”
ลักษณะสำคัญของผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิด เช่น ต้องการเป็นเพศตรงข้ามไปชั่วชีวิต มีบุคลิกภาพ แปลงเพศ ตรงกันข้ามกับเพศกำเนิด รู้สึกไม่ชอบของลับ และก็รูปลักษณ์แสดงเพศของตนเอง ไม่มีความรู้สึกถูกใจเพศเดียวกันแม้พึงพอใจแปลงเพศจริงๆควรเริ่มจากการเจอจิตแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินสภาพจิตใจเสียก่อน จิตแพทย์จะทำการตรวจประเมินแล้วก็พินิจพิจารณาระดับความรุนแรงของอาการ GD เพื่อแนะแนวทางรักษาตามอาการการแปลงเพศมีหลายวิธี ดังเช่นว่า ทดลองใช้ชีวิตแบบเพศตรงกันข้ามในแบบที่อยาก การดูแลและรักษาด้วยฮอร์โมนเพศตรงข้าม รวมทั้งการผ่าตัดแปลงเพศ
การผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง เป็นยังไง
การเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง หรือการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง แบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญๆ คลินิก แปลงเพศ ดังเช่นว่า การผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายข้างนอกให้มีรูปร่างราวกับอวัยวะเพศหญิง การผ่าตัดอวัยวะแสดงเพศอันอื่นให้เหมือนหญิงเยอะที่สุด อย่างเช่น การผ่าตัดเปลี่ยนเสียง กรอลูกกระเดือก หรือการผ่าตัดเสริมหน้าอกการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงสามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักเริ่มจากการผ่าตัดอวัยวะแสดงเพศให้เหมือนสตรีก่อน อย่างเช่น ผ่าตัดเสริมทรวงอกด้วยถุงเต้านมเทียม แล้วตามด้วยการผ่าตัดตกแต่งอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก รวมทั้งตัดกระดูกกล่องเสียงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิงนั้น สามารถทำเป็นในคนที่แก่ 20 ปีขึ้นไป หรือในกรณีที่แก่ 18-20 ปี จึงควรให้ผู้ดูแลเซ็นเอกสารยอมเข้ารับการผ่าตัด
เปลี่ยนแปลงชายให้เป็นหญิง (Transwoman)
ความเคลื่อนไหวผู้ชายให้เป็นเพศหญิงจะใช้กรรมวิธีผ่าตัดแปลงชายเป็นหญิงเพื่อแปลงอวัยวะสืบพันธุ์ชายให้มีลักษณะเหมือนอวัยวะเพศหญิง ตั้งแต่รูปลักษณ์ ทั้งยังแคมใหญ่ แคมเล็ก รูเปิดท่อเยี่ยว ความรู้สึกคือการผลิตคลิตอริส ไปจนถึงช่องคลอดซึ่งสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งในตอนนี้มีหลายเทคนิคที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น
เทคนิคใช้ผิวหนังองคชาตม้วนกลับต่อกราฟ (Penile Skin Inversion with/without Scrotal Skin Graft) โดยนำผิวหนังขององคชาตเดิมใส่กลับเข้าไปเพื่อสร้างช่องคลอดใหม่ โดยหากไม่พอ อาจต่อด้วยหนังหุ้มห่ออัณฑะนำมาต่อเป็นแผนภูมิ (Scrotal Skin Graft) รูปลักษณ์ภายนอกราวกับอวัยวะเพศหญิง มีเส้นประสาทรับความรู้สึกที่คลิตอริสแคมในรอบท่อเยี่ยวนับเป็นแนวทางมาตรฐานที่ได้รับความนิยมสำหรับในการผ่าตัดเปลี่ยนเพศหนแรกไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดท้องแต่ว่าต้องมีผิวหนังอวัยวะสืบพันธุ์พอเพียง
เปลี่ยนเพศ (Sex Reassignment) เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเปลี่ยนเพศภาวะข้างนอกให้ตรงกับภาวะจิตใจของคนไข้ที่ปรารถนาเข้ารับการผ่าตัด โดยมีทั้งยังการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง รวมทั้งจากหญิงเป็นชาย
แม้วิทยาการในปัจจุบันจะรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น แม้กระนั้นการผ่าตัดแปลงเพศก็ยังคงเป็นกระบวนการที่มีความสลับซับซ้อน คลินิก แปลงเพศ ผู้ป่วยไม่สามารถเปลี่ยนสภาพร่างกายไปเป็นเพศที่ตรงข้ามกับเพศกำเนิดของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ แล้วก็การผ่าตัดอาจมีผลต่อสภาพจิตใจ การทำงาน การเข้าสังคม แล้วก็การใช้ชีวิตไปตลอดชีวิตของคนไข้ การเปลี่ยนเพศก็เลยเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ผู้เจ็บป่วยควรตกลงใจให้ละเอียดภายใต้ดุลยพินิจของหมอ
ในคนที่มีความผิดธรรมดาด้านจิตใจซึ่งทำให้มีความรู้สึกมีความขัดแย้งของการรับทราบเพศที่ไม่สอดคล้องกับเพศที่แท้จริง ทางการแพทย์เรียกว่าgender dysphoriaหรือgender identity disorderเป็นความผิดปกติที่พบได้ค่อนข้างจะบ่อยในสังคมปัจจุบัน ด้วยเหตุว่าในปัจจุบันสังคมสารภาพคนกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆทำให้เขากล้ามารับการดูแลและรักษาแปลงเพศ ถูกกฎหมาย เพิ่มมากขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสุขสบาย
ก่อนผ่าตัดก่อนที่จะกระทำการผ่าตัดหมอควรต้องทำวิเคราะห์ให้ได้ก่อนว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ รวมทั้งสามารถจะมำการผ่าตัดได้หรือเปล่าโดยมีกระบวนการพินิจพิเคราะห์ดังนี้
คนเจ็บจำเป็นต้องดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมในเพศที่ตรงกันข้ามกับเพศจริงทางร่างกายตลอดเวลาแล้วก็บรรลุเป้าหมายสำหรับในการดำเนินชีวิตตรงเวลาอย่างต่ำ12เดือนคนไข้จะต้องได้รับการตรวจและก็ประเมินพฤติกรรมโดยจิตแพทย์อย่างต่ำ2คนรวมทั้งหนึ่งในสองคนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนเพื่อเตียมสภาพร่างกายให้อยู่ในเพศตรงข้ามเสียก่อนก่อนผ่าตัดเปลี่ยนเพศจะต้องผ่าตัดส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ซะก่อน
การผ่าตัดเปลี่ยนเพศในประเทศไทยโด่งดังแล้วก็ได้รับการยินยอมรับจากต่างประเทศมายาวนานหลายทศวรรษ ปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งยังจากคนไทยแล้วก็คนต่างชาติ แปลงเพศ ถูกกฎหมาย ในระหว่างที่เทคนิคการผ่าตัดเพื่อการเปลี่ยนเพศอย่างสมบูรณ์แบบก็มีการพัฒนา ผ่าตัดแปลงเพศ โดยตลอดเช่นกัน ล่าสุด ศัลยแพทย์โรงหมอจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้คิดค้นนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงแบบใหม่เป็นแห่งแรกของโลก ด้วยเทคนิคการนำเยื่อบุช่องท้องแบบติดขั้วเส้นเลือดมาใช้เพื่อสำหรับการสร้างเยื่อบุช่องคลอดเพื่อความยุติธรรมชาติ รวมทั้งสามารถใช้งานได้ดีเหมือนช่องคลอดของผู้หญิง
การเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศที่ การเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดแปลงเพศ เริ่มด้วยวิธีซักเรื่องราว สิ่งที่ต้องการสำหรับเพื่อการเป็นเพศตรงข้าม และขั้นตอนสำหรับเพื่อการข้ามเพศที่ได้กระทำมาแล้ว แล้วหลังจากนั้นหมอจะกระทำการตรวจร่างกายและประเมินความพร้อมเพรียงสำหรับในการผ่าตัด ตามเกณฑ์ประเมินดังต่อไปนี้
แก่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ (ในเรื่องที่อายุตั้งแต่ 18 ปี แต่ว่ายังไม่ถึง 20 ปี สามารถผ่าตัดได้แต่ต้องมีผู้ดูแลร่วมเซ็นเซ็นชื่อด้วย)ได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นคนผ่านเพศ (gender dysphoria)*** รวมทั้งมีใบรับรองจากจิตแพทย์จำนวน 2 ใบ (ในกรณีเป็นการผ่าตัดปรับปรุง ไม่จำเป็นต้องใช้ใบสุทธิจากจิตแพทย์)ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคทางจิตเวช ที่อาจมีอันตรายต่อการผ่าตัดใหญ่ หรือการดมยาสลบผ่านการใช้ฮอร์โมนข้ามเพศ อย่างน้อย 1 ปีผ่านการใช้ชีวิตเป็นเพศตรงข้าม ขั้นต่ำ 1 ปี
การผ่าตัดโดยทั่วไปประกอบด้วย
การตัดอัณฑะ (Orchidectomy) การสร้างช่องคลอด (Vaginoplasty) การตกแต่งอวัยวะข้างนอก (Labiaplasty) การผ่าตัดนี้มีการปรับปรุงแนวทางใหม่ๆขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ผ่าตัดแปลงเพศ ดังเช่น สร้างจุดรับความรู้สึก (Sensate Clitoroplasty) การผลิตแคมเล็ก (Labia Minora reconstruction) โดยใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะมาสร้างเป็นแคม การผลิตช่องคลอดด้วยลำไส้ (Intestinal Vaginoplasty) การผลิตช่องคลอดด้วยเยื่อบุช่องท้อง (Endoscopic Peritoneal Flap Vaginoplasty) ทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงในปัจจุบัน มักจะสำเร็จลัพธ์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกมิติและก็น่าพึงพอใจ
แนวทางการใช้ผิวหนังองคชาตม้วนกลับ (แนวทางมาตรฐาน)
เคล็ดวิธีนี้เป็นการนำเอาผิวหนังของถุงอัณฑะ (scrotal skin graft) ใส่กลับเข้าไปเพื่อสร้างเป็นช่องคลอดใหม่ ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกตกแต่งให้เสมือนอวัยวะเพศหญิงทุกประการ โดยเก็บเส้นประสาทรับความรู้สึกไว้ที่คลิตอริส แคมเล็ก แล้วก็รอบท่อฉี่ แปลงเพศที่ไหนดี วิธีการแบบนี้ผ่าตัดเฉพาะบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพียงแค่นั้น ไม่ต้องผ่าตัดช่องท้อง ใช้ระยะเวลาสำหรับการผ่าตัดโดยประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง เหมาะกับผู้ที่เข้ารับการเปลี่ยนเพศเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีผิวหนังของลับเพียงพอเมื่อกล่าวถึง “การเปลี่ยนเพศ” ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยคงจะระลึกถึงการผ่าตัดศัลยกรรมต้นแบบหนึ่งที่สามารถสร้างของลับรวมทั้งรูปลักษณ์แสดงเพศขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งการแปลงเพศจากเพศชายไปเป็นหญิง รวมทั้งการเปลี่ยนเพศจากหญิงไปเป็นผู้ชาย
อย่างไรก็แล้วแต่ โดยความเป็นจริงแล้วการแปลงเพศไม่ใช่สิ่งที่ใครๆก็สามารถทำได้ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต รวมทั้งหากภายหลังคิดเปลี่ยนความคิดก็ยากที่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้คืนกลับได้ดังเดิมด้วยเหตุดังกล่าวการเปลี่ยนเพศจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรึกตรองปัจจัยหลายประเภทประกอบกัน อีกทั้งสิ่งที่ต้องการของคนๆนั้น และการพินิจตามสมควรของจิตแพทย์ แล้วก็ศัลยแพทย์ จะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของการแปลงเพศว่าคืออะไร คนไหนกันบ้างที่สามารถเปลี่ยนเพศได้ การแปลงเพศมีกี่แบบ กี่วิธี อะไรบ้าง
โดยผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิง ต้องผ่านการตระเตรียมเบื้องต้นก่อน ยกตัวอย่างเช่นเทคฮอร์โมน รวมทั้งดำเนินชีวิตเป็นหญิง แปลงเพศที่ไหนดี 24 ชั่วโมงต่อวัน ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 1 ปีเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรับการคาดคะเนภาวะจิตใจ ขั้นต่ำ 2 ท่าน โดยใบสุทธิควรต้องมอายุยงไม่เกิน 6 เดือน ก่อนวันผ่าตัดตรวจสุขภาพร่างกายทั่วไป จึงควรไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่เป็นข้อที่ไม่อนุญาตสำหรับเพื่อการสูดดมยาสลบ หรือการผ่าตัด
จัดแจงร่างกายทั่วๆไป อย่างเช่น งดเว้นรับประทานยาที่ส่งผลให้เลือดออกง่ายก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ หรืองดเว้นสูบบุหรี่แล้วก็ดื่มแอลกอฮอล์ 4-6 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดบริเวณของอัญฑะด้านล่าง ตำแหน่งที่อยู่เหนือทวารหนัก เป็นส่วนที่จะประยุกต์ใช้เป็นผนังด้านล่างของช่องคลอดข้างหลังแปลงเพศ แม้กระนั้นส่วนนี้เป็นส่วนที่มีขน ถ้าเกิดอยู่ในมดลูกจะทำความสะอาดได้ยาก และไม่เป็นธรรมชาติ จำเป็นที่จะต้องกำจัดขนโดยใช้เลเซอร์ก่อนการเปลี่ยนเพศ ราวๆ 3-4 ครั้ง
ต่อไป หมอจะทำตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดรวมทั้งเอ็กซเรย์ ซึ่งถ้าเกิดพบว่ามีความผิดธรรมดาหรือมีโรคประจำตัว จะส่งขอความเห็น ผ่าตัดแปลงเพศ หมอเฉพาะทางเพื่อร่วมประเมินด้วย
ในกรณีที่คนเจ็บรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่ ซึ่งอาจมีฤทธิ์ทำให้เลือดออกง่าย เป็นต้นว่า ยาแอสไพริน (aspirin) โคลพิโดเกรล (clopidogrel) สมุนไพร อาทิเช่น ถั่งเช่า แปะก๊วย โสม กระเทียม น้ำมันตับปลา คอลลาเจน แล้วก็วิตามินอี จำเป็นจะต้องหยุดรับประทานก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เสียเลือดมากมายระหว่างการผ่าตัด
ควรหยุดยาฮอร์โมนผ่านเพศทุกจำพวกก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อคุ้มครองปกป้องภาวการณ์ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดโลหิตดำระหว่างการผ่าตัด (deep venous thrombosis)
คนป่วยที่ดูดบุหรี่หรือใช้สินค้าที่มีส่วนประกอบนิโคติน ดังเช่น ยาสูบกระแสไฟฟ้า หมากฝรั่งนิโคติน หรือแผ่นแปะสำหรับเลิกบุหรี่ จำเป็นต้องหยุดใช้ ก่อนรวมทั้งหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 เดือน เพราะว่านิโคตินจะนำมาซึ่งการทำให้แผลผ่าตัดหายช้าลง สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ควรงดดื่ม 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด แล้วก็นอกนั้นในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด ควรกินอาหารอ่อนที่มีกากน้อย เพื่อจัดเตรียมลำไส้ให้สะอาด รวมทั้งรักษาสุขลักษณะอวัยวะเพศ ด้วยการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำกินหรือสบู่สำหรับจุดซ่อนเร้นอำพรางความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแปลงเพศ
การผ่าตัดทุกหมวดหมู่มีการเสี่ยง แต่ไม่ใช่ว่าความเสี่ยงพวกนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคน หมอจะให้คำปรึกษาแล้วก็ประเมินการเสี่ยง ให้โอกาสสำหรับเพื่อการซักถามข้อสงสัย หลังจากนั้นก็เลยด้วยกันตัดสินใจในด้านการผ่าตัด
ผลกระทบจากการผ่าตัดแปลงเพศ ที่ผู้รับการผ่าตัดมักหนักใจเป็นเรื่องของความงดงามรวมทั้งการรับความรู้สึก ซึ่งผลสรุปที่ได้ขึ้นกับหลายเหตุ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถให้คำปรึกษา และก็เลือกประเภทของการผ่าตัดให้สำเร็จลัพธ์ที่ตรงตามสิ่งที่จำเป็น รวมทั้งได้โอกาสเป็นผลใกล้กันต่ำที่สุด
ในเรื่องของรอยแผลเป็น หากว่าไม่มีเรื่องราวรอยแผลจำพวกคีลอยด์มาก่อน ชอบได้รับผลสรุปที่เรียบเนียน หลบซ่อนในตำแหน่งที่เหมาะสม
ความเสี่ยงอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ภาวะแทรกซ้อนสำหรับเพื่อการหายของแผล (Wound complications) อาการชา (Numbness) หรือการขาดเลือดมาเลี้ยง (Skin Necrosis) ซึ่งพบมากในคนที่ชอบการสูบบุหรี่ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นโลหิต อาทิเช่น โรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ แต่ว่าแม้ควบคุมอาการได้ดีก็ไม่ใช่ข้อบังคับในการผ่าตัด แนวทางการต่อลำไส้
เหมาะสมกับผู้ที่อยากปรับแก้ในเรื่องที่เปลี่ยนเพศแล้วช่องคลอดตีบตัน หรือในคนที่ปรารถนาช่องคลอดที่มีความลึกมาก วิธีแบบนี้จะต้องทำผ่าตัดช่องท้อง โดยนำลำไส้ใหญ่เล็กน้อย โดยประมาณ 7-8 นิ้ว มาสร้างเป็นผนังช่องคลอด ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกจะราวแบบต่อกราฟทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งใช้ระยะเวลาสำหรับเพื่อการผ่าตัดราว 6 – 7 ชั่วโมงการแปลงเพศเป็นอย่างไร?
ในทางการแพทย์จัดให้ “การเปลี่ยนเพศ” เป็นแนวทางการรักษาผู้ที่ปราศจากความสุขกับสรีระทางเพศโดยกำเนิดอย่างหนัก หรือ ที่เรียกว่า “Gender dysphoria (GD)”
กลุ่มคนเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากับความรู้สึกว่า ราวกับถูกขังให้อยู่ในร่างกายที่ไม่ตรงตามเพศที่แท้จริงของตน ยกตัวอย่างเช่น เป็นผู้ชายแต่กลับจะต้องมาอยู่ในร่างสตรี เป็นสตรีแต่จำเป็นต้องมาอยู่ในร่างผู้ชาย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้พวกเขาต้องดำเนินชีวิตด้วยความตึงเครียด ความลำบากใจ จนเจ็บปวดทรมาน บ้างก็เพียรพยายามคิดหาทางแก้ปัญหาเท่าที่จะทำเป็น เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตถัดไปได้อย่างสุขสบาย
ผู้ใดกันที่เข้าเกณฑ์เปลี่ยนเพศได้บ้าง?
ดอกเตอร์แฮปรี่ เบนจามิน (Harry Benjamin) หมอชาวเยอรมันซึ่งได้รับเชิดชูเป็น “พ่อแห่งการเปลี่ยนเพศ” ได้กำหนดลักษณะสำคัญของคนที่ปราศจากความสุขกับสรีระทางเพศแต่กำเนิด หรือ Gender dysphoria (GD) ไว้ดังนี้
ปรารถนาเป็นเพศตรงกันข้ามไปตลอดชีพ ได้แก่ เกิดมาในร่างเพศหญิง แต่ต้องการเป็นผู้ชาย
มีบุคลิกภาพด้านนอกที่ตรงกันข้ามกับเพศทางพันธุกรรม และก็ชอบแต่งตัวเป็นเพศตรงกันข้าม อย่างเช่น เกิดมาในร่างเพศชาย แม้กระนั้นมีลักษณะนุ่มนวลคล้ายสตรี รวมทั้งชอบแต่งตัวเป็นเพศเมีย
มีความรู้สึกเกลียดอวัยวะสืบพันธุ์ และก็รูปลักษณ์แสดงเพศของตนเอง เริ่มจากการพยายามปกปิดอวัยวะพวกนั้นด้วยแนวทางต่างๆได้แก่ ใช้ผ้ารัด ไปจนถึงการพยายามกำจัดอวัยวะพวกนั้นออกไปจากร่างกาย
ไม่มีความรู้สึกชอบเพศเดียวกันการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง มีกี่วิธี?
เมื่อเอ่ยถึงการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง ส่วนใหญ่จะกำหนดไปที่การผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะสืบพันธุ์ชายให้มีรูปร่างเสมือนอวัยวะเพศหญิง โดยภายหลังที่ผ่านการตระเตรียมพื้นฐานแล้ว หมอจะนัดหมายวันและเวลาสำหรับในการเข้ารับการผ่าตัด โดยมีขั้นตอนทั่วๆไปดังต่อไปนี้
ระงับความรู้สึกด้วยแนวทางสูดดมยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์
สร้างช่องคลอดเทียม โดยการกรีดผิวหนังระหว่างถุงอัณฑะและก็รูทวารหนัก แล้วเลาะโพรงเข้าไปจนกระทั่งใกล้กับเยื่อบุช่องท้อง ความลึกและก็ความกว้างของช่องคลอดเทียมจะต่างๆนาๆตามสรีระของแต่ละคน โดยทั่วไปในชาวเอเชียสามารถสร้างช่องคลอดได้ลึกประมาณ 5-6 นิ้ว
ตัดแกนองคชาตออก และก็เก็บเส้นประสาทรับความปรารถนาทางเพศ เพื่อจัดแจงทำปุ่มรับความปรารถนาทางเพศ หรือที่เรียกว่า "คลิตอริส (Clitoris)"
ตัดท่อฉี่ผู้ชายให้สั้นลง แล้วตกแต่งให้สามารถปัสสาวะพุ่งลงเหมือนผู้หญิง
เลาะเอาอัณฑะออก เก็บผิวหนังที่ห่อหุ้มไว้ โดยผิวหนังของอัณฑะรวมทั้งองคชาตจะถูกดันเข้าไปในช่องคลอดที่เลาะไว้เพื่อสร้างเป็นผนังช่องคลอด หากผิวหนังน้อยเกินไป สามารถเอาผิวหนังจากรอบๆขา หรือลำไส้ใหญ่ มาเสริมได้
ตกแต่งบริเวณด้านนอก ดังเช่นว่า แคมนอก (Major Labia) แคมเล็ก (Minor Labia) ท่อเยี่ยว และปุ่มรับความสุขทางเพศ ให้มีความงดงามราวกับอวัยวะเพศหญิง
หมอจะใส่ผ้าพันแผลเข้าไปในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้โพรงตีบแคบ โดยแผลผ่าตัดจะหายข้างใน 7-14 วัน แล้วก็บางทีอาจจะจะต้องนอนพักในโรงหมอโดยประมาณ 7 วัน
ในกระบวนการสร้างฝาผนังช่องคลอดเทียมนั้น ยังสามารถแบ่งเป็น 2 แนวทางหลักๆเช่น การบุด้วยเนื้อเยื่อชนิดไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ รวมทั้งบุด้วยเยื่อประเภทมีเยื่อเมือกธรรมชาติ ซึ่งมีจุดเด่น-ข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน
โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศชายเป็นหญิงจึงควรหารือกับแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อเลือกเคล็ดวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง มีเนื้อหาดังนี้ วิธีการต่อไส้ (Rectosigmoid Vaginoplasty) เป็นแนวทางที่นำลำไส้ใหญ่มาสร้างเป็นผนังช่องคลอดซึ่งใช้สำไส้ใหญ่โดยประมาณ 7 – 8 นิ้วโดยใช้ไส้ในส่วนที่เรียกว่า Sigmoid แล้วก็ Upper Rectum เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์น้อยเกินไปที่จะนำไปทำเยื่อบุช่องคลอด คนที่เคยผ่าแปลงเพศแล้วช่องคลอดตีบตัน ผู้ที่ต้องการช่องคลอดลึกมาก ช่วยตกแต่งช่องคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดแข็ง:
ผิวด้านในช่องคลอดมีลักษณะเป็นเยื่อบุ ใกล้เคียงของจริง ลดโอกาสแคบภาวะแทรกซ้อนต่ำไม่จำเป็นต้องใช้เจลหล่อลื่นในการมีเซ็กส์ เพราะว่าเยื่อผลิตมูกได้ตามธรรมชาติการขยายช่องคลอดทำเพียงแค่รอบๆทางเข้าช่องคลอด ซึ่งจะทำได้ง่ายกว่าแบบองคชาตม้วนกลับแล้วก็แบบเยื่อบุช่องท้องคนที่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนเพศได้
ผู้ที่สามารถเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศได้จะต้องได้รับการอนุมัติหรือเห็นสมควรจากจิตแพทย์แล้วว่าเป็นคนที่มีภาวการณ์ความรู้สึกว่าไม่พึงพอใจในเพศของตน (Gender Dysphoria หรือในอดีตกาลใช้คำว่า Gender Identity Disorder) ซึ่งเป็นภาวะที่คนไข้เกิดความทุกข์ใจจากเพศสภาพในปัจจุบันของตัวเอง รวมทั้งมีความรู้สึกต้องการเป็นคนข้ามเพศ
แพทยที่ประชุมประเทศไทยบอกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมศัลยกรรม-เรียนรู้ความเสี่ยเปลี่ยนเพศต้องกระทำแก่ผู้ที่มีข้อบ่งชี้เพียงแค่นั้นแล้วก็จำเป็นต้องกระทำตามข้อกำหนดแพทยสภาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ประชากรที่มีความมุ่งหมายผ่าตัดเปลี่ยนเพศ โดยผู้เข้ารับการเปลี่ยนเพศจะต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หากแก่ตั้งแต่ 18 ปี แต่ยังไม่ถึง 20 ปี จำต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ถ้าละเมิดจะมีความผิดตามกฎหมาย
ส่วนเด็กรวมทั้งวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 18 ปี ที่เจอปัญหาสภาวะความรู้สึกไม่พึงพอใจในเพศของตัวเอง ควรจะหาทางออกมาจากความทุกข์ใจภายใต้การดูแล ความเข้าอกเข้าใจ การให้กำลังใจจากครอบครัวและก็บุคคลใกล้ชิด การให้คำปรึกษาจากพ่อแม่ผู้ดูแล หรือเข้ารับการบำบัดภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังเช่นว่า การบำบัดแบบครอบครัว การบำบัดเชิงจิตวิทยารายตัว หรือการรับฮอร์โมนบำบัดรักษาอย่างเหมาะสมภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์
