----s — различия между версиями

Материал из ТОГБУ Компьютерный Центр
Перейти к: навигация, поиск
м (----s)
м (----s)
Строка 1: Строка 1:
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ชั้นวางของ เป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดระเบียบข้าวของภายในบ้านให้อยู่เป็นที่เป็นทาง และเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยจัดระเบียบให้กับบ้าน ทำให้บ้านมีความน่าอยู่ ข้าวของไม่วางระเกะระกะ ที่สำคัญ คือ ทำให้บ้านดูสวยงามน่ามองมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเราจะรู้กันดีว่าชั้นวางของ มีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท หลากหลายรูปแบบที่มีคุณสมบัติ การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป<br /><br />แต่สำหรับบทความ สาระน่ารู้วันนี้ DKW จะพาเพื่อน ๆ มาส่องประโยชน์ของ ชั้นวางของ ว่าทำไมอุปกรณ์ชนิดนี้ถึงมีประโยชน์ต่อการใช้งาน และจัดระเบียบสิ่งของได้ในทุก ๆ พื้นที่ ถ้าพร้อมแล้วตามเรามาดูกันเลย<br /><br />ชั้นวางของ มีให้เลือกใช้งานทั้งหมดกี่ประเภท<br /><br />ชั้นวางของ หรือชั้นเก็บของ เป็นหนึ่งตัวช่วยในการจัดระเบียบสิ่งของให้ง่ายต่อการใช้งาน และเป็นหนึ่งในไอเทมที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในการใช้งาน ซึ่งชั้นวางของนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้<br /><br />ชั้นวางของแบบโต๊ะ<br /><br />เป็นชั้นวางของที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เนื่องจากชั้นวางของประเภทนี้จะมีลักษณะคล้ายกับโต๊ะทั่วไป แต่จะมีความพิเศษตรงที่มีชั้นวางของเพิ่มเข้ามาที่ด้านล่าง ทำให้สามารถวางของได้อย่างหลากหลาย และง่ายต่อการหยิบใช้งาน<br /><br />ชั้นวางของแบบเข้ามุม<br /><br />สำหรับชั้นวางของแบบเข้ามุม จะมีลักษณะที่คล้ายกับชั้นวางของแบบโต๊ะ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่รูปทรงของชั้นวางของ จะเข้าได้กับมุมห้อง หรือมุมโต๊ะได้โดยไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเกินออกมา จึงเหมาะมาก ๆ กับพื้นที่ที่มีขนาดเล็ก หรือมีพื้นที่ที่จำกัด<br /><br />ชั้นวางของแบบมีล้อเลื่อน<br /><br />สำหรับชั้นวางของแบบมีล้อเลื่อน จะมีความโดดเด่นในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ที่ด้านล่างของชั้นวางของจะมีล้อเลื่อน ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย และทำความสะอาดได้ง่าย<br /><br /> [https://dailyuploads.net/13hrb2omwzx8 https://dailyuploads.net/13hrb2omwzx8] <br /><br />ชั้นวางของแบบชั้นลอย<br /><br />ส่วนชั้นวางของแบบชั้นลอย จะมีลักษณะการใช้งานคือติดกับผนัง ไม่สามารถวางที่พื้น หรือมุมห้องได้ ส่วนใหญ่แล้วจะติดตั้งบริเวณผนัง หรือบริเวณตู้ต่าง ๆ ซึ่งชั้นวางของแบบชั้นลอยจะตอบโจทย์กับบ้าน หรือพื้นที่ที่มีจำกัด หรือมีพื้นที่ค่อนข้างน้อย แต่อยากจัดระเบียบให้กับบ้าน<br /><br />ชั้นวางของแบบตู้<br /><br />สำหรับชั้นวางของแบบตู้ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับชั้นวางของแบบโต๊ะ ที่สามารถเก็บของได้อย่างหลากหลาย และมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งชั้นวางของแบบตู้นั้น จะมีให้เลือกทั้งแบบมีล้อเลื่อน และแบบไม่มีล้อเลื่อนให้เลือกใช้งาน<br /><br />7 คุณประโยชน์ของ ชั้นวางของ ที่คุณควรรู้<br /><br />เมื่อเราทราบถึงประเภทของชั้นวางของกันไปแล้ว ลำดับถัดมาเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือประโยชน์ของชั้นวางของ ที่ว่าทำไมชั้นวางของถึงมีประโยชน์ต่อการใช้งานในทุกพื้นที่ ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันต่อได้เลย<br /><br /> [https://www.4shared.com/office/0KfJ6cVKjq/___ikmug.html ถังขยะ] <br /><br />ใช้งานได้ในทุกพื้นที่ที่ต้องการ<br /><br />หลายรู้อาจจะยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วชั้นวางของสามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่ที่ต้องการ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งานภายในบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้งานในภายในคอนโด สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม หรือร้านค้าได้ เพราะชั้นวางของส่วนใหญ่มีดีไซน์การออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในทุกที่ที่ต้องการ และตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของแต่ละคนอีกด้วย<br /><br />มีความหลากหลาย<br /><br />นอกจากความหลากหลายของการใช้งานในทุกพื้นที่ที่ต้องการแล้ว ชั้นวางของยังเป็นอุปกรณ์ที่มีความหลากหลายในด้านของวัสดุ และรูปแบบดีไซน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชั้นวางของพลาสติก ชั้นวางของสเตนเลส ชั้นวางของไม้ หรือชั้นวางของอะลูมิเนียม ที่ถูกดีไซน์ให้มีรูปทรงเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณสามารถเลือกวัสดุ หรือดีไซน์ของชั้นวางของให้เหมาะกับความต้องการ และการใช้งานได้<br /><br />ช่วยจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น<br /><br />หนึ่งในประโยชน์ของชั้นวางของที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คงจะเป็นในเรื่องของตัวช่วยจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น เพราะด้วยความที่ชั้นวางของถูกดีไซน์ให้มีช่อง หรือชั้นมากกว่า 2 ชั้นขึ้นไป ทำให้คุณสามารถนำของใช้ หรือสิ่งของที่ต้องการจัดระเบียบมาวางเก็บไว้บนชั้น เพื่อให้สิ่งของถูกจัดให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น และทำให้ง่ายต่อการค้นหา รวมถึงการยิบใช้งานอีกด้วย<br /><br />ช่วยให้บ้านสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก<br /><br />นอกจากชั้นวางของจะช่วยจัดระเบียบข้าวของเครื่องใช้ให้วางเป็นที่เป็นทางให้เป็นระเบียบมากขึ้นแล้ว ชั้นวางของยังมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องของความสะอาด เพราะเมื่อคุณเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้บนชั้นวางของแล้ว ก็จะทำให้คุณสามารถทำความสะอาดพื้นที่บริเวณรอบ ๆ บ้านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยกำจัดสิ่งสกปรกออกจากบ้านได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ทำให้บ้านสะอาด น่ามอง และน่าอยู่มากขึ้นนั่นเอง<br /><br />มีพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้น<br /><br />แน่นอนว่าทุกคนต่างมีความต้องการใช้งานพื้นที่ได้อย่างไร้ขีดจำกัด แต่ถ้าหากพื้นที่เหล่านั้นเต็มไปด้วยสิ่งของ เครื่องใช้วางเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นที่ ก็คงเป็นเรื่องยากในการทำกิจกรรม หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ชั้นวางของจึงมีประโยชน์ตรงที่จะช่วยจัดระเบียบจัดเก็บสิ่งของให้อยู่เป็นที่เป็นทาง เพื่อให้คุณมีพื้นที่ภายในบ้านเอาไว้ใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำกิจกรรมอย่างไร้ขีดจำกัด<br /><br />ชั้นวางของ สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่จำกัด<br /><br />นอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานแล้ว ชั้นวางของยังสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่จำกัดอีกด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ใครที่มีพื้นที่จำกัด หรืออยู่คอนโดที่มีขนาดเล็กแคบ เพราะว่าชั้นเก็บของมีความหลากหลายต่อการใช้งานในทุกพื้นที่อย่างที่บอกไปในประโยชน์ข้อแรก ทำให้ไม่ว่าพื้นที่เหล่านั้นจะมีขนาดเล็ก หรือจำกัดมากขนาดไหน ก็สามารถนำชั้นวางของเข้าไปเป็นตัวช่วยจัดระเบียบ และเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านให้มีความกว้างขวางขึ้นได้<br /><br />มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน<br /><br />ด้วยความที่ชั้นวางของผลิตมาจากหลายวัสดุ ที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วชั้นเก็บของส่วนใหญ่มักผลิตมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน อย่าง ชั้นเก็บของพลาสติก DKW ที่ผลิตมาจากพลาสติกคุณภาพดีเกรดพรีเมียม ที่มีความหนาพิเศษ ทำให้วัสดุมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานได้อย่างยาวนานไม่แตกหักได้ง่ายเหมือนพลาสติกทั่วไป<br /><br />ทั้งนี้ชั้นเก็บของ DKW ยังเป็นวัสดุที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recycle) เนื่องจากรูปแบบ และดีไซน์ของชั้นเก็บของที่มีความโมเดิร์น มินิมอล เรียบง่าย แต่คงฟังก์ชันที่ทันสมัย เข้าได้กับทุกพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน ไม่ขัดกับ Mood and Tone ของพื้นที่นั้น ๆ อย่างแน่นอน<br /><br />ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ชั้นวางของ เป็นหนึ่งในไอเทมที่มีความสำคัญต่อการใช้งานอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ต้องการจัดระเบียบ หรือมีพื้นที่ใช้งานที่จำกัด และอยากเพิ่มพื้นที่ให้มีความกว้างขวางมากขึ้น ชั้นวางของจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง<br /><br />สำหรับใครที่กำลังมองหาชั้นวางของพลาสติกคุณภาพดีไว้ใช้งาน หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลาสติกอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาชมสินค้าเพิ่มเติมได้ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DKW<br /><br /> [https://www.file-upload.com/mp9mlz11a5on ถังขยะรีไซเคิล] <br /><br />“The synergy of function and design” – DKW<br /><br />DKW แบรนด์สินค้าส่งออกทั่วโลก ดีไซน์เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์ คุณภาพดีเกินราคา มีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, บุญถาวร, The Mall ทั่วประเทศ<br /><br />Line Official ID: @dkwofficial<br /><br />Website: http://www.dkwthailand.com/<br /><br />Facebook: https://www.facebook.com/DKWLifestyleForHome<br /><br />Instagram: https://www.instagram.com/dkw_lifestyle/<br /><br />TikTok: https://www.tiktok.com/@dkw.official<br /><br />
+
[https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thanapitcmg&amp;month=19-10-2022&amp;group=1&amp;gblog=3 เนื้อหมู] <br /><br />หลาย ๆ คนยังมีความคิดว่ากินเนื้อหมู จะทำให้อ้วน ซึ่งความจริงแล้วความอ้วนเกิดจากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย ซึ่ง เนื้อหมู ไขมัน ที่หลายคนคิดว่าจะเป็นสาเหตุนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะถ้าหากเลือกบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญรู้หรือไม่ ? เนื้อหมูช่วยลดความอ้วนได้ หากควบคุมปริมาณตามเกณฑ์ <br /><br />อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อหมูที่มากเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ควรทาน และการไม่รับประทานเนื้อหมูเลย อาจทำให้ขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วันนี้ พิชชามีท จึงจะพาไปดูผลกระทบของการทาน เนื้อหมู ไขมัน ที่มาก และน้อยเกินไป ว่าจะส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ?<br /><br />พาสำรวจ ! สารอาหารจากเนื้อหมู ไขมัน ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง<br /><br />โปรตีน <br /><br />โปรตีน สามารถหาได้จากเนื้อสัตว์เป็นหลัก ซึ่งประโยชน์ของโปรตีนมีมากมาย ตั้งแต่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกทั้งโปรตีนยังสามารถซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพราะการที่น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ อาจทำให้คนเราหมดสติ หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ร่างกายที่ได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ จึงช่วยป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ได้ รวมถึงโปรตีนยังช่วยเรื่องระบบสืบพันธุ์อีกด้วย<br /><br />วิตามินบี 1 <br /><br />วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ซึ่งเป็นโรคที่อันตราย และต่างจากเหน็บชาทั่วไป ซึ่งถ้าขาดวิตามมินบี 1 ร่างกายจะแสดงอาการออกมา เช่น อาการอ่อนเพลีย ท้องผูก ท้องอืดเฟ้อ รู้สึกชา หรือความจำเสื่อม เนื่องจากส่งผลถึงระบบประสาท จึงมีผลต่อการขยับตัว และระบบกล้ามเนื้อ โดยหากขาดวิตามินบี 1 เป็นปริมาณมาก อาจทำให้เป็นอัมพาตได้<br /><br />ไขมัน <br /><br />มันหมู มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และยังช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง รวมทั้งมีกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เช่น โอเมก้า 6 โอเมก้า 3 และไขมัน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินต่าง ๆ ได้อีกด้วย<br /><br />กรดไขมัน โอเมก้า 3<br /><br />เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อสตรีมีครรถ์ เด็ก เเละทารก ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ฯลฯ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับสารอาหารให้เพียงพอ เพื่อนำไปใช้ในการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม การรับประทาน เนื้อหมู ไขมัน ของคนกลุ่มนี้ ต้องระมัดระวังเรื่องความเหนียวของชิ้นเนื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดคอได้ จึงควรใช้การบริโภคน้ำมันหมู ซึ่งเป็นผลผลิตของ เนื้อหมู ไขมัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเหล่านี้<br /><br />กรดโอเลอิก<br /><br />ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งย่อมดีกว่า นอกจากนี้ กรดโอเลอิก ยังช่วยลดการทําลายหลอดเลือด และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ซึ่งเป็นโรครุนแรงที่จะขัดขวางการทำงานของระบบอวัยวะภายใน และการทำงานของหัวใจ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรบริโภคอาหารที่ให้กรดโอเลอิก อย่าง เนื้อหมู ไขมัน เพื่อหาตัวช่วยป้องกันโรคเหล่านี้<br /><br />กิน เนื้อหมู ไขมัน น้อยเกินไป ร่างกายจะเป็นยังไง ?<br /><br />เนื้อหมู ไขมัน มีประโยชน์อยู่มาก เพราะอุดมไปด้วยสารที่ช่วยป้องกันอันตรายจากโรคภัย และช่วยส่งเสริมสุขภาพ แต่หลายคนยังกังวลเรื่องรับประทานแล้วจะทำให้อ้วน จึงพยายามเลี่ยงที่จะรับประทานเนื้อหมู หรือบางคนก็ไม่รับประทานเลย ซึ่งการได้รับไขมันน้อยเกินไป ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน เราจะพามาดูว่าหากได้รับไขมันน้อยเกินไป จะส่งผลอย่างไรบ้าง ?<br /><br />หลีกเลี่ยง เนื้อหมู ไขมัน ไปบริโภคน้ำตาล <br /><br />สำหรับคนที่ไม่รับประทาน เนื้อหมู ไขมัน ก็อาจอนุมานได้ว่าจะไม่รับประทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ ด้วย เช่น ผู้กินมังสวิรัต หรือผู้ที่ต้องการลดโปรตีน คนเหล่านี้จึงหันไปบริโภคคาร์โบไฮเดรตมากกว่า เพราะทำให้อิ่ม และได้พลังงานเช่นกัน สารอาหารนี้มักได้มาจากอาหารจำพวกแป้ง และผลไม้ ซึ่งมีน้ำตาลสูง หากรับประทานมากเกินไป ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลสูงจนเป็นอันตรายได้<br /><br />ได้รับประทานอาหารไม่หลากหลาย<br /><br />สำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อหมู ก็จะถูกจำกัดอาหารการกินไปด้วย เพราะมีหลายเมนูที่ใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลัก ผู้ที่ไม่ชอบก็จะต้องเลี่ยงอาหารเหล่านี้ ซึ่งทำให้ขาดความหลากหลายของอาหารที่รับประทาน แม้จะยังสามารถบริโภคอย่างอื่นได้ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ลิ้มลองความอร่อยของ เนื้อหมู ไขมัน ที่ใคร ๆ ก็ต้องติดใจ<br /><br />ไม่มีเนื้อหมูไขมันช่วยดูดซึมพลังงาน<br /><br />เนื้อหมู ไขมัน เป็นส่วนที่ให้สารอาหารจำนวนมาก หากไม่ทานเนื้อส่วนนี้เลย เราก็จะได้รับไขมันน้อยลง ทำให้ได้รับไขมันที่ไม่เพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายพลังงานสะสมในร่างกาย จนท้ายที่สุดร่างกายก็จะทำลายกล้ามเนื้อลง นอกจากนี้ วิตามินหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ ต่างก็ต้องการใช้ไขมันเพื่อช่วยในการดูดซึม นั่นหมายความว่า ถ้าเรามีไขมันในร่างกายน้อยเกินไป เราอาจขาดวิตามิน เอ, ดี, อี และเค ได้<br /><br />บริโภค เนื้อหมู ไขมัน มากเกินพอดี เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ?<br /><br />เนื้อหมู ไขมัน มีองค์ประกอบของไขมัน ที่เป็นไขมันอิ่มตัวอยู่ทั้งหมดถึง 38–43% และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่ 56–62% อีกทั้งมีพลังงานสูงถึง 900 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งจะส่งผลเสียอย่างมากหากรับประทานมากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคอ้วน และทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าการบริโภค เนื้อหมู ไขมัน ที่มากเกินไป มีข้อเสียอย่างไรบ้าง<br /><br />เนื้อหมูไขมันมากเกินไป ต้นกำเนิดโรคอ้วน<br /><br />แน่นอนว่าการบริโภค เนื้อหมู ไขมัน มากเกินไป เราก็จะได้รับไขมันที่มากเกินพอดี และส่งผลให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะระบบเผาผลาญทำงานได้น้อย ทำให้พลังงานส่วนเกินถูกเก็บไว้ในรูปไขมัน ซึ่งโรคอ้วนมี 2 รูปแบบ คือ อ้วนลงพุง และอ้วนทั้งตัว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสองแบบหากเราบริโภคเนื้อหมูเกินพอดี โดยเราสามารถตรวจสอบว่าเราเป็นโรคอ้วนหรือยังได้ด้วยการคำนวณ BMI ดังนี้<br /><br />Body Mass Index (BMI) มีสูตรการคำนวณ = น้ำหนักตัว[Kg] / (ส่วนสูง[m] ยกกำลังสอง)<br /><br />หลักเกณฑ์<br /><br />&lt;18.5 ต่ำกว่าเกณฑ์<br /><br />18.5-22.90 ปกติสมส่วน<br /><br />23-24.90 น้ำหนักเกิน<br /><br />25-29.90 อ้วนระดับ 1<br /><br />&gt;30 อ้วนระดับ 2<br /><br />หากดัชนีมวลกาย (BMI) เกินกว่า 25 ถือว่าเข้าสู่ภาวะโรคอ้วน (Obesity)<br /><br />โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่มาจากโรคอ้วน<br /><br />โรคอ้วน เป็นโรคสาเหตุของโรคอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะร่างกายที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากเกินไป จะทำให้ระบบอวัยวะอื่นทำงานผิดปกติไปด้วย สำหรับโรคที่มีสาเหตุมาจากโรคอ้วน ได้แแก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง หรือมีปัญหาในการหายใจ และมักเป็นโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายโรคอีกด้วย<br /><br />รูปลักษณ์เปลี่ยนไป ไม่มั่นใจตัวเอง<br /><br />เมื่อมีไขมันมากเกินไป จะทำให้ขนาดตัวเราเปลี่ยนไปด้วย จากคนที่เคยสมส่วนก็อาจจะน้ำหนักขึ้น มีพุง และส่วนอื่นใหญ่ขึ้น ทำให้รู้สึกไม่ดีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เพราะการที่มีรูปร่างใหญ่ขึ้น จะต้องมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น การหาไซซ์เสื้อผ้า พื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ต้องเพิ่มตามขนาดตัว และการขยับตัวก็จะเทอะทะไม่สะดวกสบาย<br /><br />เหนื่อยง่าย จากการกินเนื้อหมู ไขมัน มากเกินไป<br /><br />เมื่อมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป จะส่งผลต่อการหายใจ ซึ่งโดยทั่วไปเป็นที่รู้กันว่าผู้ที่อ้วน มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย หอบง่าย และหายใจติดขัด ประสบกับปัญหาในการนอน อาจมีอาการนอนกรน หรือในกรณีหนึ่งอาจเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้<br /><br />อย่างไรก็ตาม เนื้อหมู ไขมัน มีทั้งประโยชน์ และโทษ หากรับประทานในปริมาณที่ไม่พอดี ดังนั้นจึงควรบริโภคเนื้อหมู และไขมันอย่างพอดี สำหรับใครที่อยากลดการรับประทานเนื้อหมู และไขมันน้อยลง ก็สามารถเลือกซื้อเนื้อหมูจากส่วนที่ไม่ติดมันได้ <br /><br />โดยจะได้ลดในส่วนไขมัน แต่ยังได้โปรตีน และสารอาหารอื่น ๆ ครบถ้วน ส่วนใครที่อยากเพิ่มปริมาณไขมัน ก็สามารถเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีไขมัน ได้ โดยทาง พิชชามีท ของเรามีให้ท่านเลือกทั้งสองแบบ อีกทั้งเนื้อหมูยังมีคุณภาพและสดใหม่ คงไว้ซึ่งสารอาหารมากมายในเนื้อหมูอย่างแน่นอน หากสนใจสามารถขอข้อมูล เพิ่มเติม หรือติดต่อได้ที่ Line: @pitchameat

Версия 12:22, 29 ноября 2023

เนื้อหมู

หลาย ๆ คนยังมีความคิดว่ากินเนื้อหมู จะทำให้อ้วน ซึ่งความจริงแล้วความอ้วนเกิดจากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย ซึ่ง เนื้อหมู ไขมัน ที่หลายคนคิดว่าจะเป็นสาเหตุนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะถ้าหากเลือกบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญรู้หรือไม่ ? เนื้อหมูช่วยลดความอ้วนได้ หากควบคุมปริมาณตามเกณฑ์

อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อหมูที่มากเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ควรทาน และการไม่รับประทานเนื้อหมูเลย อาจทำให้ขาดสารอาหาร หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วันนี้ พิชชามีท จึงจะพาไปดูผลกระทบของการทาน เนื้อหมู ไขมัน ที่มาก และน้อยเกินไป ว่าจะส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ?

พาสำรวจ ! สารอาหารจากเนื้อหมู ไขมัน ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง

โปรตีน

โปรตีน สามารถหาได้จากเนื้อสัตว์เป็นหลัก ซึ่งประโยชน์ของโปรตีนมีมากมาย ตั้งแต่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย อีกทั้งโปรตีนยังสามารถซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพราะการที่น้ำตาลในเลือดไม่คงที่ อาจทำให้คนเราหมดสติ หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ร่างกายที่ได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ จึงช่วยป้องกันโรคภัยต่าง ๆ ได้ รวมถึงโปรตีนยังช่วยเรื่องระบบสืบพันธุ์อีกด้วย

วิตามินบี 1

วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ซึ่งเป็นโรคที่อันตราย และต่างจากเหน็บชาทั่วไป ซึ่งถ้าขาดวิตามมินบี 1 ร่างกายจะแสดงอาการออกมา เช่น อาการอ่อนเพลีย ท้องผูก ท้องอืดเฟ้อ รู้สึกชา หรือความจำเสื่อม เนื่องจากส่งผลถึงระบบประสาท จึงมีผลต่อการขยับตัว และระบบกล้ามเนื้อ โดยหากขาดวิตามินบี 1 เป็นปริมาณมาก อาจทำให้เป็นอัมพาตได้

ไขมัน

มันหมู มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และยังช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง รวมทั้งมีกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เช่น โอเมก้า 6 โอเมก้า 3 และไขมัน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินต่าง ๆ ได้อีกด้วย

กรดไขมัน โอเมก้า 3

เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อสตรีมีครรถ์ เด็ก เเละทารก ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ฯลฯ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับสารอาหารให้เพียงพอ เพื่อนำไปใช้ในการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม การรับประทาน เนื้อหมู ไขมัน ของคนกลุ่มนี้ ต้องระมัดระวังเรื่องความเหนียวของชิ้นเนื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดคอได้ จึงควรใช้การบริโภคน้ำมันหมู ซึ่งเป็นผลผลิตของ เนื้อหมู ไขมัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเหล่านี้

กรดโอเลอิก

ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งย่อมดีกว่า นอกจากนี้ กรดโอเลอิก ยังช่วยลดการทําลายหลอดเลือด และช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ซึ่งเป็นโรครุนแรงที่จะขัดขวางการทำงานของระบบอวัยวะภายใน และการทำงานของหัวใจ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรบริโภคอาหารที่ให้กรดโอเลอิก อย่าง เนื้อหมู ไขมัน เพื่อหาตัวช่วยป้องกันโรคเหล่านี้

กิน เนื้อหมู ไขมัน น้อยเกินไป ร่างกายจะเป็นยังไง ?

เนื้อหมู ไขมัน มีประโยชน์อยู่มาก เพราะอุดมไปด้วยสารที่ช่วยป้องกันอันตรายจากโรคภัย และช่วยส่งเสริมสุขภาพ แต่หลายคนยังกังวลเรื่องรับประทานแล้วจะทำให้อ้วน จึงพยายามเลี่ยงที่จะรับประทานเนื้อหมู หรือบางคนก็ไม่รับประทานเลย ซึ่งการได้รับไขมันน้อยเกินไป ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน เราจะพามาดูว่าหากได้รับไขมันน้อยเกินไป จะส่งผลอย่างไรบ้าง ?

หลีกเลี่ยง เนื้อหมู ไขมัน ไปบริโภคน้ำตาล

สำหรับคนที่ไม่รับประทาน เนื้อหมู ไขมัน ก็อาจอนุมานได้ว่าจะไม่รับประทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ ด้วย เช่น ผู้กินมังสวิรัต หรือผู้ที่ต้องการลดโปรตีน คนเหล่านี้จึงหันไปบริโภคคาร์โบไฮเดรตมากกว่า เพราะทำให้อิ่ม และได้พลังงานเช่นกัน สารอาหารนี้มักได้มาจากอาหารจำพวกแป้ง และผลไม้ ซึ่งมีน้ำตาลสูง หากรับประทานมากเกินไป ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลสูงจนเป็นอันตรายได้

ได้รับประทานอาหารไม่หลากหลาย

สำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อหมู ก็จะถูกจำกัดอาหารการกินไปด้วย เพราะมีหลายเมนูที่ใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลัก ผู้ที่ไม่ชอบก็จะต้องเลี่ยงอาหารเหล่านี้ ซึ่งทำให้ขาดความหลากหลายของอาหารที่รับประทาน แม้จะยังสามารถบริโภคอย่างอื่นได้ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ลิ้มลองความอร่อยของ เนื้อหมู ไขมัน ที่ใคร ๆ ก็ต้องติดใจ

ไม่มีเนื้อหมูไขมันช่วยดูดซึมพลังงาน

เนื้อหมู ไขมัน เป็นส่วนที่ให้สารอาหารจำนวนมาก หากไม่ทานเนื้อส่วนนี้เลย เราก็จะได้รับไขมันน้อยลง ทำให้ได้รับไขมันที่ไม่เพียงพอ ร่างกายจะเริ่มสลายพลังงานสะสมในร่างกาย จนท้ายที่สุดร่างกายก็จะทำลายกล้ามเนื้อลง นอกจากนี้ วิตามินหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ ต่างก็ต้องการใช้ไขมันเพื่อช่วยในการดูดซึม นั่นหมายความว่า ถ้าเรามีไขมันในร่างกายน้อยเกินไป เราอาจขาดวิตามิน เอ, ดี, อี และเค ได้

บริโภค เนื้อหมู ไขมัน มากเกินพอดี เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ?

เนื้อหมู ไขมัน มีองค์ประกอบของไขมัน ที่เป็นไขมันอิ่มตัวอยู่ทั้งหมดถึง 38–43% และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่ 56–62% อีกทั้งมีพลังงานสูงถึง 900 กิโลแคลอรีต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งจะส่งผลเสียอย่างมากหากรับประทานมากเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคอ้วน และทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าการบริโภค เนื้อหมู ไขมัน ที่มากเกินไป มีข้อเสียอย่างไรบ้าง

เนื้อหมูไขมันมากเกินไป ต้นกำเนิดโรคอ้วน

แน่นอนว่าการบริโภค เนื้อหมู ไขมัน มากเกินไป เราก็จะได้รับไขมันที่มากเกินพอดี และส่งผลให้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะระบบเผาผลาญทำงานได้น้อย ทำให้พลังงานส่วนเกินถูกเก็บไว้ในรูปไขมัน ซึ่งโรคอ้วนมี 2 รูปแบบ คือ อ้วนลงพุง และอ้วนทั้งตัว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสองแบบหากเราบริโภคเนื้อหมูเกินพอดี โดยเราสามารถตรวจสอบว่าเราเป็นโรคอ้วนหรือยังได้ด้วยการคำนวณ BMI ดังนี้

Body Mass Index (BMI) มีสูตรการคำนวณ = น้ำหนักตัว[Kg] / (ส่วนสูง[m] ยกกำลังสอง)

หลักเกณฑ์

<18.5 ต่ำกว่าเกณฑ์

18.5-22.90 ปกติสมส่วน

23-24.90 น้ำหนักเกิน

25-29.90 อ้วนระดับ 1

>30 อ้วนระดับ 2

หากดัชนีมวลกาย (BMI) เกินกว่า 25 ถือว่าเข้าสู่ภาวะโรคอ้วน (Obesity)

โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่มาจากโรคอ้วน

โรคอ้วน เป็นโรคสาเหตุของโรคอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะร่างกายที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากเกินไป จะทำให้ระบบอวัยวะอื่นทำงานผิดปกติไปด้วย สำหรับโรคที่มีสาเหตุมาจากโรคอ้วน ได้แแก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม โรคตับ นิ่วในถุงน้ำดี นิ่วในไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง หรือมีปัญหาในการหายใจ และมักเป็นโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายโรคอีกด้วย

รูปลักษณ์เปลี่ยนไป ไม่มั่นใจตัวเอง

เมื่อมีไขมันมากเกินไป จะทำให้ขนาดตัวเราเปลี่ยนไปด้วย จากคนที่เคยสมส่วนก็อาจจะน้ำหนักขึ้น มีพุง และส่วนอื่นใหญ่ขึ้น ทำให้รู้สึกไม่ดีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เพราะการที่มีรูปร่างใหญ่ขึ้น จะต้องมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น การหาไซซ์เสื้อผ้า พื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ต้องเพิ่มตามขนาดตัว และการขยับตัวก็จะเทอะทะไม่สะดวกสบาย

เหนื่อยง่าย จากการกินเนื้อหมู ไขมัน มากเกินไป

เมื่อมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป จะส่งผลต่อการหายใจ ซึ่งโดยทั่วไปเป็นที่รู้กันว่าผู้ที่อ้วน มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย หอบง่าย และหายใจติดขัด ประสบกับปัญหาในการนอน อาจมีอาการนอนกรน หรือในกรณีหนึ่งอาจเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้

อย่างไรก็ตาม เนื้อหมู ไขมัน มีทั้งประโยชน์ และโทษ หากรับประทานในปริมาณที่ไม่พอดี ดังนั้นจึงควรบริโภคเนื้อหมู และไขมันอย่างพอดี สำหรับใครที่อยากลดการรับประทานเนื้อหมู และไขมันน้อยลง ก็สามารถเลือกซื้อเนื้อหมูจากส่วนที่ไม่ติดมันได้

โดยจะได้ลดในส่วนไขมัน แต่ยังได้โปรตีน และสารอาหารอื่น ๆ ครบถ้วน ส่วนใครที่อยากเพิ่มปริมาณไขมัน ก็สามารถเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีไขมัน ได้ โดยทาง พิชชามีท ของเรามีให้ท่านเลือกทั้งสองแบบ อีกทั้งเนื้อหมูยังมีคุณภาพและสดใหม่ คงไว้ซึ่งสารอาหารมากมายในเนื้อหมูอย่างแน่นอน หากสนใจสามารถขอข้อมูล เพิ่มเติม หรือติดต่อได้ที่ Line: @pitchameat