-t
มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานสด ใส่ยำ ใส่น้ำพริก หรือทำเป็นมะม่วงเบาแช่อิ่ม มะม่วงเบามีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของประเทศไทย ปลูกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น
การเตรียมพื้นที่ปลูก
การเตรียมพื้นที่ปลูกมะม่วงเบา มีดังนี้
เลือกพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
ปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน
ทำร่องหรือหลุมสำหรับปลูกมะม่วงเบา ระยะห่างระหว่างต้น 5-6 เมตร ระยะห่างระหว่างแถว 6-7 เมตร
การเลือกพันธุ์มะม่วงเบา
พันธุ์มะม่วงเบาที่นิยมปลูก ได้แก่
พันธุ์เบาปราณบุรี
พันธุ์เบานครปฐม
พันธุ์เบาสุราษฎร์ธานี
พันธุ์เบาสงขลา
วิธีการปลูกมะม่วงเบา
การปลูกมะม่วงเบามี 2 วิธี คือ
การปลูกมะม่วงเบาด้วยเมล็ด
นำเมล็ดมะม่วงเบาที่แก่จัดมาเพาะในถุงเพาะชำ ใช้เวลาเพาะประมาณ 3-4 เดือน เมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร จึงย้ายปลูกลงแปลง
การปลูกมะม่วงเบาด้วยต้นกล้า
เลือกต้นกล้ามะม่วงเบาที่มีอายุประมาณ 6-12 เดือน ต้นกล้ามีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ปลูกลงแปลงตามระยะห่างที่กำหนด
การดูแลรักษามะม่วงเบา
การดูแลรักษามะม่วงเบา มีดังนี้
การให้น้ำ
รดน้ำมะม่วงเบาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
การให้ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน
การตัดแต่งกิ่ง
ตัดแต่งกิ่งมะม่วงเบาปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว
การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช
หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ
การเก็บเกี่ยวมะม่วงเบา
มะม่วงเบาจะเริ่มออกดอกในช่วงฤดูหนาว ผลมะม่วงเบาจะสุกในช่วงฤดูร้อน มะม่วงเบาสุกจะมีเปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมเขียว ผลมะม่วงเบาจะรับประทานได้สดหรือนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้
เคล็ดลับการปลูกมะม่วงเบาให้ได้ผลดี
เลือกพันธุ์มะม่วงเบาที่ทนทานต่อสภาพอากาศและศัตรูพืช
ใส่ปุ๋ยบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ
รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่ารดน้ำมากเกินไป
ตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นตรวจดูมะม่วงเบาเป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ
การปลูกมะม่วงเบาเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ไม่ยาก มะม่วงเบาเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และรับประทานได้หลากหลาย การปลูกมะม่วงเบานอกจากจะได้มะม่วงเบาที่รับประทานสดแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างรายได้อีกด้วย
รั้วตาข่าย