Просмотр исходного текста страницы -NCDs--c

ปัจจุบันตัวเลขของผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตเร็วจากกลุ่มโรค NCDs สูงเป็นอันดับ 1 และทุก ๆ ปีคาดว่าจะมีแนวโน้มของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น<br /><br />ดังนั้น บทความในวันนี้ Hillkoff จะมาอธิบายเกี่ยวกับโรค NCDs พร้อมทั้งบอกวิธีการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค<br /><br />ปัจจัย และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง<br /><br />โรค NCDs (Non Communicable Diseases) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ โรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็น<br /><br />การรับประทานอาหารรสจัด และอาหารไขมันสูง<br /><br />จากการวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารรสจัด อย่าง รสเค็มจัด ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการบริโภคเกลือ หรือโซเดียมมากเกินไป รวมไปถึงการรับประทานอาหารไขมันสูง อาหารจำพวกแป้ง ของมัน และของทอด เช่น อาหารจังก์ฟู้ด (Junk Food) หากตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หรือภาวะไขมันในเลือดสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงของเมตาบอลิซึมที่นำไปสู่โรคร้ายแรงต่าง ๆ จากกลุ่มโรค NCDs<br /><br />การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย<br /><br />สำหรับคนที่ชอบสังสรรค์ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากรายงานพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs ที่มีพฤติกรรมชอบดื่มสุรามากถึง 3 ล้านคนต่อปี ยิ่งไปกว่านั้นหากสูบบุหรี่เป็นประจำ รวมไปถึงผู้ที่ใกล้ชิดกับควันบุหรี่ จะยิ่งเพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วการสูบบุหรี่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ล้านคนต่อปี<br /><br />นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกาย ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทางเมตาบอลิซึมในร่างกาย หรือคนที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน นอกจากไม่ได้ช่วยให้ร่างกายได้ขยับ หรือใช้พลังงานยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรค และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง<br /><br />การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีภาวะเครียดสูง<br /><br />กลุ่มคนที่มีภาวะความเครียดสูง ทั้งจากการใช้ชีวิต และจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถจัดการกับความเครียดเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ องค์ประกอบโดยรวมของสภาพแวดล้อม ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรักษาสุขภาพของคนในชุมชนก็เสี่ยงต่อการเป็นโรค NCDs เช่นกัน<br /><br />โดยสาเหตุ และพฤติกรรมเหล่านี้ หลายคนเรียกว่าเป็นโรคที่เราสร้างขึ้นมาเอง เพราะโรค NCDs ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรีย แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งจะมีการสะสมอาการอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการเรื้อรังของโรคจะรุนแรงขึ้น จนเกิดเป็นผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย<br /><br />กลุ่มโรค NCDs และอาการของโรคที่ควรสังเกต มีอะไรบ้าง<br /><br />โรคเบาหวาน จะเริ่มมีอาการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน อ่อนเพลียง่าย น้ำหนักลด หรือหากเป็นแผลจะหายช้ากว่าปกติ<br /><br />โรคความดันโลหิตสูง มีอาการปวดศีรษะ มีอาการมึนงงหลังตื่นนอน เหนื่อยง่าย ตาพร่ามัวบ่อย รวมถึงอาจมีอาการใจสั่นร่วมด้วย<br /><br />โรคหลอดเลือดสมอง มีอาการแขนขาอ่อนแรง รู้สึกชาตามนิ้วมือ และนิ้วเท้า บางรายอาจมีอาการปากเบี้ยว หรือพูดไม่ชัด<br /><br />โรคหัวใจขาดเลือด มักมีอาการแน่นหน้าอก จุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ หรือบริเวณคอหอย บางรายอาจมีอาการหน้ามืด และใจสั่น<br /><br />โรคมะเร็ง ส่วนมากเกิดจากผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรัง รักษาไม่หาย หรือมีก้อนเนื้อบริเวณตาตุ่ม แต่หากพบในบริเวณช่องท้องจะกระทบต่อระบบขับถ่าย หรือมีเลือดออกโดยหาสาเหตุไม่ได้<br /><br />โรคอ้วนลงพุง วัดได้จากการวัดรอบเอว โดยผู้ชายจะมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร ผู้หญิงที่มีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร มีอาการเหนื่อยง่าย และมีปัญหาเรื่องข้อเข่าจากน้ำหนักตัวที่มาก<br /><br />วิธีการปฏิบัติตัว เพื่อรับมือกับโรค NCDs<br /><br />วิธีการแก้ไข และการปฏิบัติตัวเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค NCDs คือ การปรับพฤติกรรมประจำวัน แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่หากคิดถึงผลในระยะยาว ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้<br /><br />ลด หรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์<br /><br />ลด หรืองดการสูบบุหรี่<br /><br />หาวิธีผ่อนคลายจากความเครียด เพื่อไม่ให้ตัวเองอยู่ในสภาวะตึงเครียด อย่าง หาเวลาพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือทำงานอดิเรก<br /><br /> [https://files.fm/f/wu5kzvn8zj ฮิลล์คอฟฟ์] <br /><br />นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควรหลับให้สนิท 6-8 ชั่วโมง<br /><br />ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที<br /><br />ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผัก และผลไม้<br /><br />หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของมัน ของทอด และอาหารจำพวกแป้ง<br /><br />หากมีอาการเจ็บป่วย ควรพบแพทย์เพื่อรับยา และการรักษาที่ถูกต้อง<br /><br />ควรตรวจสุขภาพประจำปีอยู่เสมอ เพื่อเช็กดูว่าควรปรับพฤติกรรมอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิต และสุขภาพที่ดี<br /><br />อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อกำจัดความเสี่ยง อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และต้องใช้เวลาให้ชินกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ดังนั้นการเลือกทานอาหารเสริมที่มีสาร Chlorogenic Acid อย่าง Coffogenic Drink เครื่องดื่มสกัดเข้มข้นจากเปลือกกาแฟเชอร์รี มีส่วนช่วยในการควบคุมภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs<br /><br />นอกจากนี้สาร Chlorogenic Acid สามารถเพิ่มขนาดของคอเลสรอลมายเซลล์ ทำให้ร่างกายดูดซึมได้น้อยลง จึงมีส่วนช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด และลดความเสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับ รวมไปถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะดื้ออินซูลิน เช่น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคคอเลสเตอรอล โรคเบาหวาน เป็นต้น<br /><br />หากต้องการสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อ สามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @coffogenic<br /><br />